TPBI มีแผนขยายตลาดบรรจุภัณฑ์มูลค่าสูงในอังกฤษมากขึ้น มองแนวโน้มออเดอร์โตหลังออกจาก EU

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 29, 2016 11:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมศักดิ์ บริสุทธนะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทีพีบีไอ (TPBI) เปิดเผยว่า บริษัทฯได้เตรียมแผนรับมือภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปจากปัจจัยที่อังกฤษจะถอนตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) ในครั้งนี้ เพื่อรักษาขีดความสามารถการแข่งขันในการส่งออกบรรจุภัณฑ์ไปยังประเทศอังกฤษ และเพื่อเป็นการทำการตลาดเชิงรุกรองรับโอกาสทางการตลาดใหม่ ๆ ที่เกิดจะขึ้น TPBI จึงได้ตั้งทีมขายประจำที่ประเทศอังกฤษเพื่อเข้าทำการตลาดเพิ่มเติมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อรองรับโอกาสออเดอร์สั่งซื้อสินค้าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น ทั้งกลุ่มบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทหูหิ้วที่ถูกนำไปใช้ในห้างค้าปลีกสมัยใหม่และถุงขยะที่วางจำหน่ายในห้างค้าปลีกสมัยใหม่ในประเทศอังกฤษ รวมถึงกลุ่มสินค้าใหม่ๆ เช่น Flexible Packaging ที่บริษัทฯต้องการเข้าไปขยายตลาดเพิ่มเติม ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเพิ่มยอดขายในอนาคต

"ในอนาคตอังกฤษอาจมีการจัดเก็บอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากตลาดอียูเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่อยู่ในอัตรา 0% ดังนั้นมีความเป็นไปได้สูงที่ผู้นำเข้าอังกฤษจะเพิ่มคำสั่งซื้อสินค้าบรรจุภัณฑ์พลาสติกนอกกลุ่มอียูมากขึ้น ซึ่งไทยถือเป็นฐานการผลิตที่สำคัญในการส่งออกบรรจุภัณฑ์พลาสติกไปยังอังกฤษ โดย TPBI มีแผนขยายตลาดบรรจุภัณฑ์มูลค่าสูงในอังกฤษมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าและช่วยผลักดันสัดส่วนการส่งออกสินค้าไปยังตลาดอังกฤษเพิ่มขึ้นในอนาคต"นายสมศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ จากผลโหวตประชามติของประชาชนชาวอังกฤษต้องการให้ออกจากประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ได้ส่งผลกระทบทั้งในระยะสั้นและระยะยาวต่อตลาดรวมบรรจุภัณฑ์พลาสติกในตลาดโลก โดยบริษัทฯ ประเมินว่าในระยะสั้นจากผลกระทบครั้งนี้ส่งผลให้ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลงทำให้ต้นทุนสินค้าของลูกค้าที่นำเข้าจะสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ลูกค้าส่วนใหญ่ของ TPBI มีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้าเป็นรายปีอยู่แล้ว มีผลให้ไม่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลงมากนัก

ส่วนผลกระทบในระยะยาว มีความเป็นไปได้ว่าประเทศอังกฤษอาจไม่ให้สิทธิพิเศษยกเว้นภาษีนำเข้า 0%ให้แก่สินค้าที่มีฐานการผลิตในกลุ่มประเทศอียูและประเทศที่มีข้อตกลงเขตการค้าเสรีกับกลุ่มอียู หากภายในกรอบระยะเวลา 2 ปีต่อจากนี้ ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางภาษีกับอังกฤษได้ จะส่งผลให้การนำเข้าสินค้าที่ผลิตจากกลุ่มอียูและกลุ่มประเทศที่มีข้อตกลงเขตการค้าเสรีกับกลุ่มอียูมีต้นทุนเพิ่มขึ้น ตามอัตราการเรียกเก็บภาษี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ