ERW มั่นใจรายได้ปีนี้โต 10% หลังคาดอัตราเข้าพักเฉลี่ยทั้งปี 81% สูงขึ้นจากปีก่อน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 25, 2016 18:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.กันยะรัตน์ กฤษณเทวินทร์ รองกรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจกำไรทั้งปีนี้จะสูงกว่าปีก่อนที่มีกำไรอยู่ที่ 197.87 ล้านบาท หลังครึ่งปีแรกบริษัททำกำไรได้มากกว่าปี 58 ทั้งปีไปแล้ว และแนวโน้มกำไรช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะดีกว่าครึ่งปีแรกที่มีกำไรสุทธิ 208.03 ล้านบาท เป็นผลมาจากการเติบโตของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการโรงแรมในเครือของบริษัทมากขึ้น ทำให้มีรายได้เข้ามาและบริษัทยังมีการบริหารต้นทุนให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น

แนวโน้มจำนวนนักท่องเที่ยวในปีนี้คาดว่าอยู่ที่ 34 ล้านคน จากปีก่อนที่ 29.9 ล้านคน ซึ่งเป็นผลมาจากการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวของภาครัฐ โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยอย่างต่อเนื่องคือนักลงท่องเที่ยวชาวจีน อีกทั้งนักท่องเที่ยวรัสเซียเริ่มเห็นการฟื้นตัวขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวภูเก็ตที่เติบโตขึ้นกว่า 300% ในช่วงที่ผ่านมา

ส่วนรายได้ในปีนี้บริษัทมั่นใจว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 5.32 พันล้านบาท เนื่องจากอัตราการเข้าพัก (OCC) ในปีนี้มีการปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 81% จากปีก่อนที่ 70% ขณะที่อัตราเฉลี่ยรายได้ต่อจำนวนห้องพัก (RevPar) ในปีนี้คาดว่าจะเติบโต 4% (ไม่รวมโรงแรม Hop inn) นอกจากนี้ บริษัทยังมีการขยายโรงแรมใหม่ต่อเนื่อง โดยครึ่งปีหลังจะเปิดโรงแรมอีก 3 แห่ง ได้แก่ โรงแรม HOP INN ที่หาดใหญ่และภูเก็ต ในไตรมาส 4/59 และจะมีการเปิดโรงแรม HOP INN ในต่างประเทศ แห่งแรกที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ในเดือน ธ.ค.นี้ ซึ่งจะทำให้สิ้นปี บริษัทมีโรงแรม HOP INN ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวม 23 แห่ง ใช้งบลงทุนไปกว่า 1 พันล้านบาท

ด้านแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59 คาดว่ารายได้รวมจะเติบโต 18% หรือมาอยู่ที่ 1.43 พันล้านบาท จากไตรมาส 3/58 ที่มีรายได้ 1.21 พันล้านบาท เป็นผลมาจากอัตราการเข้าพักคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 79% จากช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 71% เนื่องจากไตรมาส 3/59 ไม่มีเหตุการความไม่สงบในกรุงเทพฯ แม้ว่าเหตุการณ์ระบบในพื้นที่หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดอื่น ๆ ในภาคใต้ แต่บริษัทไม่ได้มีความกังวล เพราะรายได้จากโรงแรม Ibis หัวหิน คิดเป็น 1.6% ของรายได้รวมทั้งหมดเท่านั้น ประกอบกับปัจจุบันของอัตราการเข้าพักของโรงแรม Ibis หัวหินกลับมาสู่ระดับปกติที่ 40-50% หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้อัตราการเข้าพักลดลงมาอยู่ที่ 30%

ขณะที่แผนการจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ (REIT) อยู่ระหว่างการศึกษาแต่ยังไม่มีความคืบหน้า เพราะบริษัทจะต้องมีการพิจาณาสินทรัพย์ที่จะนำมาจัดตั้งกอง REIT อย่างรอบคอบและได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า อย่างไรก็ตาม ในปีนี้คงยังไม่เห็นการจัดตั้งกอง REIT อย่างแน่นอนเพราะหากจะมีการจัดตั้งกอง REIT จะต้องใช้เวลาพิจาณาแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) อย่างน้อย 6 เดือน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ