A มั่นใจปีนี้รายได้ตามเป้า-อัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 7% ครึ่งปีหลังเปิดอีก 7 โครงการใหม่ 5-6 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 26, 2016 16:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิศิษฎ์ เลาหพูนรังษี ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ.อารียา พรอพเพอร์ตี้ (A) เปิดเผยว่า บริษัทยังมั่นใจรายได้ในปีนี้จะเติบโตได้เป้าหมายที่ 7 พันล้านบาท แม้ว่าครึ่งปีแรกจะทำรายได้เพียง 2.4 พันล้านบาท แต่ครึ่งปีหลังโครงการ เอสเปซ ไอดี อโศก-รัชดา คอนโดมิเนียมมูลค่า 2.6 พันล้านบาท จะเริ่มทยอยโอนจากยอดขายที่ทำได้แล้ว 50% โดยยอดขาย 20% เป็นลูกค้าชาวต่างประเทศ อาทิ สิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน

ปัจจุบัน บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ไม่ถึง 1 พันล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ที่เปิดขายและโอนได้ทันที ขณะที่มีโครงการคอนโดมิเนียมรอขายอีกมูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท หรือเท่ากับ 700-800 ยูนิต และช่วงครึ่งหลังของปีนี้เตรียมเปิดโครงการใหม่อีก 7 โครงการ รวมมูลค่าโครงการ 5-6 พันล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 5 โครงการ มูลค่ารวม 2 พันล้านบาท และคอนโดมิเนียม 2 โครงการ รวมมูลค่า 3.6-4 พันล้านบาท

"สำหรับโครงการใหม่ 7 โครงการที่เป็นไฮไลท์จะมีโครงการบ้านลักชัวรี่ที่ซอยสุขุมวิท 77 ราคา 30-80 ล้านบาทต่อยูนิต จำนวน 80 ยูนิตจะเปิดขายในไตรมาส 4 ส่วนคอนโดมิเนียมลักชัวรี่ ซอยสุขุมวิท 53 มูลค่าประมาณ 1,000-1,300 ล้านบาทมีความสูง 7 ชั้น"นายวิศิษฎ์ กล่าว

นายวิศิษฎ์ กล่าวว่า บริษัทมีเป้าหมายจะรักษาอัตรากำไรสุทธิในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 7% โดยในช่วงครึ่งหลังคาดว่าจะอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่าครึ่งปีแรกที่มีอัตรากำไรสุทธิ 7% เนื่องจากช่วงครึ่งปีหลังมีการโอนโครงการคอนโดมิเนียมค่อนข้างมาก ซึ่งคอนโดมิเนียมีอัตรากำไรสุทธิสูงกว่าแนวราบ ขณะที่ในปี 58 อัตรากำไรสุทธิอยู่ในระดับ 3.97% ซึ่งในปีนี้สัดส่วนรายได้เปลี่ยนเป็นมาจากคอนโดมิเนียมเพิ่มเป็น 30% จาก 10% ในปีก่อน ส่วนแนวราบปรับลดสัดส่วนมาที่ 70% จากปีก่อนอยู่ที่ 90%

สำหรับอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่กว่า 3 เท่า และในช่วง 2-3 ปีนี้จะยังทรงตัวระดับนี้ เพราะบริษัทจะมีการใช้เงินลงทุนโครงการใหญ่ต่อเนื่อง ได้แก่ โครงการคอนโดมิเนียมหรูย่านราชดำริ มูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างปลายไตรมาส 1/60 หรือ ต้นไตรมาส 2/60 ขณะนี้อยู่ระหว่างออกแบบโครงการ และบริษัทยังเตรียมงบซื้อที่ดิน 1.5-2.0 พันล้านบาท แบ่งเป็นเพื่อรองรับการพัฒนาคอนโดฯ 500 ล้านบาท และรองรับแนวราบ 1.0-1.5 พันล้านบาท จากปัจจุบันมีที่ดินรอการพัฒนาอยู่ 300 ไร่ อยู่บริเวณบางนา 100 ไร่ และย่านบางใหญ่ 200 ไร่

"ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ ในช่วงครึ่งปีหลังไม่น่ามีอะไร surprise ไม่บวกแรงและไม่ลบแรง ยังโตได้ ซึ่งตลาดบ้าน luxuery น่าจะดี แต่ตลาด mass อาจจะอืด"ประธานกรรมการ A กล่าว

ส่วนยอดปฏิเสธการกู้ ในโครงการคอนโดมิเนียม เฉลี่ยอยุ่ที่ 10-20% ส่วนแนวราบมี 20-30% ซึ่งถือว่าไม่มาก

สำหรับโครงการบ้านธนารักษ์ที่ได้มาทำเลพหลโยธิน 1 โครงการนั้น บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับกรมธนารักษ์ ซึ่งในสัญญาเบื้องต้นได้รับงานก่อสร้างออกแบบ ซึ่งบริษัทจะมีรายได้จากค่าเช่า ประมาณ 4,000 บาท/ห้อง/เดือน เป็นเวลา 30 ปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ