KTIS คาดผลงานปี 60 กลับมาฟื้นโตตามราคาน้ำตาล-ปริมาณหีบอ้อยเพิ่มขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday September 22, 2016 13:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมชาย สุวจิตตานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจอ้อยและน้ำตาล บมจ.เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอน์ปอเรชั่น (KTIS) คาดว่ารายได้ในปี 60 จะกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง จากปีนี้ที่คาดว่ารายได้จะหดตัว ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำตาลในฤดูกาลปี 59/60 จะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 22 เซ็นต์/ปอนด์ จากราคาน้ำตาลในฤดูกาลปี 58/59 ที่ 16 เซ็นต์/ปอนด์ จากความต้องการใช้น้ำตาลในตลาดโลกที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น

ขณะที่แนวโน้มปริมาณอ้อยเข้าหีบในฤดูกาลปี 59/60 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากฤดูกาลปี 58/59 ที่มีปริมาณอ้อยเข้าหีบอยู่ที่ 7 ล้านตันอ้อย เนื่องจากในช่วงตั้งแต่ครึ่งปีหลังของปีนี้มีปริมาณฝนมากขึ้นกว่าในช่วงที่ผ่านมาอย่างชัดเจน ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกอ้อยเริ่มสามารถปลูกผลผลิตได้ และเริ่มมีผลผลิตออกมาจำนวนมาก ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดีว่าปัญหาภัยแล้งเริ่มคลี่คลายลง และส่งผลให้ปริมาณผลผลิตอ้อยเพิ่มมากขึ้น

ในส่วนกำลังการผลิตน้ำตาลที่ปัจจุบันมีกำลังการผลิตน้ำตาลอยู่ที่ 88,000 ตัน/วัน โดยได้ใช้กำลังการผลิตเต็ม 100% แล้ว ซึ่งการจำหน่ายน้ำตาลของบริษัทแบ่งสัดส่วนออกเป็น การส่งออกน้ำตาลอยู่ที่ 65-70% ส่วนที่เหลืออีก 25-30% เป็นการขายในประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม สัดส่วนการจำหน่ายน้ำตาลของบริษัทมีการปรับเปลี่ยนตามความต้องการที่มีการปรับขึ้นหรือลดลง โดยจะต้องสอดคล้องกับตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศในช่วงเวลานั้นๆ

"เรามีแผนในอนาคตหรืออาจเป็นปีหน้าที่จะขยายกำลังการผลิตน้ำตาลของโรงงานทั้ง 3 โรงที่เรามีอยู่ เพื่อตอบสนองความต้องการใช้น้ำตาลที่สูงขึ้น ซึ่งปัจจุบันเราได้รับใบอนุญาตในการก่อสร้างและขยายกำลังการผลิตน้ำตาลแล้วทั้ง 3 โรง แต่ตอนนี้ขอศึกษาดูว่าจะเป็นการลงทุนในช่วงไหน และขยายกำลังการผลิตเท่าไหร่ เพราะการลงทุนนี้จะเป็นการลงทุนใหญ่ของบริษัท ส่วนการผลิตน้ำเชื่อมของบริษัทในปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 400 ตัน/วัน ก็มองดูโอกาสในการขยายกำลังการผลิตอยู่ เพราะปัจจุบันน้ำเชื่อมมีปริมาณการใช้เยอะมาก โดยเฉพาะลูกค้าของเราที่เป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มอัดลมรายใหญ่ 3-4 ราย มีการใช้น้ำเชื่อมที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ ก็ยังมีการผลิตน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์พิเศษที่เป็นสินค้าสร้างมูลค่าเพิ่ม กำลังการผลิตในปัจจุบันที่ 500 ตัน/วัน"นายสมชายกล่าว

นอกจากนี้ ในช่วงเดือนตุลาคมโรงไฟฟ้าชีวมวลของบริษัทขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้า 50 เมกะวัตต์ ที่จ.อุตรดิตถ์ จะกลับมาเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าและจำหน่ายไฟฟ้าได้อีกครั้ง หลังจากหยุดการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าไปราว 1 ปี ซึ่งการกลับมาเดินเครื่องผลิตไฟฟ้ารอบใหม่นี้จะสามารถเดินเครื่องได้เต็มกำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ ซึ่งบริษัทมีสัญญาขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) จำนวน 38 เมกะวัตต์ ซึ่งจะช่วยเข้ามาหนุนรายได้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ส่วนไฟฟ้าที่ผลิตได้ส่วนที่เหลือของบริษัทจะใช้ในโรงงานของบริษัท

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีโรงไฟฟ้าชีวมวล ทั้งหมด 3 โรง ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 160 เมกะวัตต์ ปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าอยู่ที่ 30% และอีก 70% เป็นสัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายน้ำตาล


แท็ก เนชั่น  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ