กลุ่มสื่อ-บันเทิงยังเดินหน้าบวก โบรกฯ มองทีวีรับผลกระทบงดรื่นเริงระยะสั้น-แต่โรงหนังอาจต้องลุ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 14, 2016 11:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กลุ่มสื่อทีวี-โรงหนังยังเดินหน้าบวก นักวิเคราะห์หลักทรัพย์มองผลกระทบจากการงดรายการรื่นเริงน่าจะเกิดขึ้นในระยะสั้น เนื่องจากผู้ประกอบการน่าจะเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ไว้บ้างส่วนแล้ว ส่วนโรงภาพยนตร์ยังอาจต้องรอดูสถานการณ์ในระยะข้างหน้าอีกครั้ง

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 11.18 น.

MAJOR อยู่ที่ 29.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท (+5.45%)

BEC อยู่ที่ 19.60 บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาท (+6.52%)

MCOT อยู่ที่ 11.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท (+4.67%)

RS อยู่ที่ 7.05 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท (+6.02%)

WORK อยู่ที่ 32.75 บาท เพิ่มขึ้น 4.25 บาท (+14.91%)

MONO อยู่ที่ 2.62 บาท เพิ่มขึ้น 0.28 บาท (+11.97%)

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่ภาครัฐฯได้ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนควรพิจารณางดการจัดงานรื่นเริงต่างๆ เป็นเวลา 30 วัน จะมีผลกระทบต่อกลุ่มสื่อทีวีและสถานบันเทิง แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าผู้ประกอบการคงเตรียมการรับสถานการณ์ไว้บ้างแล้ว นอกจากนี้ ก็อาจจะได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐ และสำนักงาน กสทช. ในการยืดระยะเวลาการชำระค่างวดเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระแก่ผู้ประกอบการ

"ใน 30 วันนี้ ช่องต่างๆ อาจจะไม่มีรายได้จากค่าโฆษณาเข้ามาเลย แต่เราเชื่อว่าเขาคงเตรียมสภาพคล่อง และมีการเตรียมการต่างๆรองรับไว้แล้ว และหลังจาก 30 วันถึงแม้ว่าโฆษณายังไม่เข้ามาทั้งหมดแต่ก็คงเข้ามาบ้าง และถึงแม้ว่าจะกระทบต่อผลประกอบการอย่างแน่นอน แต่เราเชื่อว่าในอีก 2 ปีข้างหน้า ผู้ที่มีสายป่านยาวเท่านั้นที่จะสามารถยืนอยู่ได้ และจะมีการแข่งขันที่ลดลง เราจึงมองว่าช่วงนี้เหละเป็นช่วงที่ต่ำที่สุดแล้ว และจะค่อยๆปรับตัวดีขึ้น เราจึงมองว่าเป็นช่วงที่เหมาะสมในการเข้าทยอยลงทุน"นายประกิต กล่าว

ส่วนกลุ่มโรงภาพยนตร์นั้นใน 30 วัน ไม่ดีอย่างแน่นอน และหลังจากผ่านระยะเวลา 30 วันไปแล้ว ก็ยังคงยากลำบาก เพราะเป็นเรื่องของกาลเทศะ และต้องติดตามว่าการบริโภคของประชาชนจะกลับเข้ามาสู่ภาวะปกติหรือไม่ ซึ่งยังประเมินได้ค่อนข้างยาก

"คงประเมินได้ยากเพราะสำหรับโรงภาพยนตร์ เพราะว่าเราไม่รู้หลัง 30 วันไปแล้วการบริโภคจะกลับมาปกติหรือไม่ เพราะหลัง 30 วันแล้วก็เข้าสู่ช่วงวันพ่อ คือ วันที่ 5 ธ.ค. ซึ่งก็เป็นเรื่องของกาลเทศะ เราก็ยังต้องติดตามต่อไป"นายประกิต กล่าว

ด้านนายสยาม ติยานนท์ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า สำหรับในกลุ่มมีเดียก็คงได้รับผลกระทบทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตามยังค่อนข้างเร็วไปที่จะประเมินสถานการณ์ได้ว่าจะมีผลกระทบมากน้อยเพียงใด ซึ่งปัจจุบันก็แนะนำได้เพียงว่าให้หลีกเลี่ยงออกมาดูสถานการณ์ต่อไปก่อนว่าจะเป็นอย่างไร

ส่วนนายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ได้แนะนำให้ระมัดระวังการลงทุนกลุ่มมีเดียอยู่แล้วตั้งแต่แรก โดยมองว่ากลุ่มมีเดียได้รับผลกระทบแน่นอนอยู่แล้วอย่างน้อยที่สุดคือ 30 วัน ซึ่งมองว่าคงจะใช้ระยะเวลาถึง 6 เดือนที่สถานการณ์ต่างๆจะกลับมาปกติ

"กลุ่มโรงหนังเท่าที่ตามข่าวยังไม่ได้มีการสั่งให้ปิด แต่ด้วยสถานการณ์แบบนี้ประชาชนก็คงยังไม่ได้ต้องการความบันเทิงขนาดนั้น ก็คงได้รับผลกระทบแน่นอน ในส่วนของกลุ่มมีเดียเองก็ได้รับผลกระทบแน่ๆ อยู่แล้ว 30 วัน เพราะค่าโฆษณาต่างๆก็ไม่ได้อยู่แล้ว ในส่วนของหลังจาก 30 วันแล้วก็ต้องมาติดตามการบริโภคอีกครั้งว่าจะเป็นอย่างไร เพราะหลัง 30 วันแล้วก็คงไม่ได้รีบเร่งในการกลับมาโฆษณาเหมือนกับสถานการณ์ปกติ เราจึงแนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงกลุ่มนี้ก่อน"นายอภิชาติ กล่าว

แท็ก ภาพยนตร์  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ