โบรกฯเชียร์"ซื้อ" PYLON คาดกำไรปี 60-61 เติบโตโดดเด่น รับผลบวกงานภาครัฐหนุน,ราคาหุ้นมีอัพไซด์

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 26, 2016 14:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์แนะนำ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ไพลอน (PYLON) หลังมองภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างเป็นบวกมากขึ้น สะท้อนจากการที่บริษัทตั้งงบลงทุนเครื่องจักรเพิ่มขึ้นรองรับมูลค่างานในมือ (Backlog) ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งจะช่วยหนุนให้กำไรในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ดีกว่าครึ่งปีแรก ขณะที่อุตสาหกรรมก่อสร้างฐานรากในปี 60 จะเติบโตโดดเด่นทั้งจากงานโครงการรถไฟฟ้าและงานภาคเอกชน โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่จะผุดขึ้นตามแนวรถไฟฟ้า เชื่อว่าจะผลักดันให้กำไรปี 60-61 พลิกกลับมาเติบโตอย่างสดใสอีกครั้งจากที่ชะลอตัวในปีนี้

ด้านราคาหุ้นยัง underperform ตลาดหุ้นไทย และแนวโน้มผลการดำเนินงานโดดเด่นในปีหน้า ประกอบกับบริษัทเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างงานฐานรากรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของไทย ที่มีจุดเด่นการมีศักยภาพทำกำไรและฐานะการเงินที่แข็งแกร่งสุดในอุตสาหกรรม รวมถึงยังมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง ทำให้ยังเป็นที่น่าสนใจในการลงทุน

ราคาหุ้น PYLON ปิดเที่ยงวันนี้ที่ 10.60 บาท นับแต่ต้นปีราคาหุ้นปรับลดลงราว 5.7% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยเพิ่มขึ้นราว 16.6%

          โบรกเกอร์                    คำแนะนำ                 ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          บัวหลวง                      ซื้อ                         11.50
          เออีซี                        ซื้อ                         12.10
          แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์              ซื้อ                         12.50

นักวิเคราะห์ บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ กล่าวว่า ภาพอุตสาหกรรมฐานรากและเสาเข็มในช่วงครึ่งหลังของปีนี้เป็นบวกมากขึ้นกว่าช่วงครึ่งปีแรก สะท้อนจากการที่ PYLON เพิ่มงบลงทุนเครื่องจักรจากกว่า 100 ล้านบาท ขึ้นเป็น 250 ล้านบาทในปีนี้ ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกับ บมจ.ซีฟโก้ (SEAFCO) ซึ่งเป็นผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเดียวกันอีกรายที่ใช้งบลงทุนตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันมากขึ้นกว่า 200% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ปลายปีนี้ยังมีงานรถไฟฟ้าอย่างน้อย 3 สายและรถไฟทางคู่ที่อยู่ขั้นตอนประมูล ซึ่งผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมทุกรายมีโอกาสที่จะได้รับงาน

"เรามองบวก โปรเจคภาครัฐต่าง ๆ ไม่ได้เลื่อนออกไป ธุรกิจอุตสาหกรรมก่อสร้างดีขึ้น จากงานของภาครัฐเป็นหลัก"นักวิเคราะห์ กล่าว

นักวิเคราะห์ กล่าวอีกว่า ปริมาณงานในมือของ PYLON เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงที่ผ่ามา โดยบริษัทรับงานใหม่ค่อนข้างมาก ได้แก่ โครงการสามย่าน มิตรทาวน์ ,สุวรรณภูมิเฟส 2 ,รถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่น หนุนให้ Backlog เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยทั้ง 3 งานใช้กำลังผลิตที่มีไปเกือบ 100% แล้ว ขณะที่ในส่วนของ 2 งานหลังเป็นงานค่าแรงอย่างเดียว ซึ่งจะผลักดันให้ Backlog งานค่าแรงเพิ่มขึ้นเป็น 36% ส่งผลดีต่ออัตรากำไรขั้นต้นด้วย

จากปริมาณงานในมือที่มีอยู่จะช่วยผลักดันรายได้รวมในครึ่งหลังปีนี้เติบโต 27% จากครึ่งปีแรก ผนวกกับอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นจากลักษณะงานใหม่ที่ได้รับมีการแข่งขันด้านราคาน้อยลง ทำให้กำไรในช่วงครึ่งหลังปีนี้เติบโต 41% จากครึ่งปีแรก แต่เมื่อพิจารณาทั้งปีนี้ กำไรน่าจะยังลดลง 7% จากปีที่แล้ว เนื่องจากช่วงครึ่งแรกของปีนี้ผลการดำเนินงานไม่ดีนัก แต่คาดว่ากำไรในปี 60 จะเติบโตก้าวกระโดด 25% จากปีนี้ ตามรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น จากการรับรู้รายได้ข้ามปีของโครงการสุวรรณภูมิเฟส 2 รวมถึงคาดว่าโครงการรถไฟฟ้าทั้ง 3 สายที่อยู่ในขั้นตอนประมูลปีนี้น่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในครี่งหลังปีหน้า

ด้าน บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห่ว่า กำไรของ PYLON จะเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 3/59 เป็นต้นไป คาดว่ากำไรจะอยู่ที่ระดับ 40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% จากงวดปีก่อน และ 30% จากไตรมาสก่อน โดยได้อานิสงส์จากรายได้ที่รับรู้ในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 18% ทั้งงวดปีก่อน และไตรมาสก่อน ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มที่สูงขึ้นเป็น 20% จาก 16% ในไตรมาส 2/59 เพราะงานเฉพาะค่าแรง จะมีมาร์จิ้นสูง

ขณะที่กำไรในไตรมาส 4/59 จะฟื่นตัวต่อเนื่องจากไตรมาส 3 และมีโอกาสดีใกล้เคียงกับไตรมาส 4/58 ที่มีกำไรเกือบ 50 ล้านบาท เพราะงานใน backlog ที่รอการรับรู้มีถึง 252 ล้านบาท และในจำนวนนี้เป็นงานค่าแรงถึง 106 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 42% จะเป็นปัจจัยที่อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ส่วนในปี 60 คาดว่ากำไรจะเติบโต 34% จากปีนี้ จากประมาณการรายได้เติบโตมาที่ราว 1.3-1.4 พันล้านบาท เพราะประเมินว่าจะมีงานก่อสร้างรากฐานออกมาเป็นจำนวนมาก ทั้งจากภาครัฐบาล ได้แก่ งานจากรถไฟฟ้า 3 สาย ได้แก่ สายสีส้ม, สีเหลือง และสีชมพู เบื้องต้นประเมินว่าจะมีมูลค่ารากฐานราว 3-7 พันล้านบาท ,งานเอกชน จากคาดว่างานคอนโดมิเนียมจะเริ่มเพิ่มมากขึ้นจากการเปิดตัวโครงการใหม่ ซึ่งจะทำให้ PYLON พร้อมจะกลับมาเติบโตอย่างก้าวกระโดดอีกครั้ง ด้วยส่วนแบ่งตลาดที่สูงราว 25-30% ซึ่งคาดว่าบริษัทจะได้รับงานเพิ่มขึ้นตามความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น

บัวหลวง ระบุอีกว่าได้ปรับลดคำแนะนำการลงทุนสำหรับหุ้น PYLON ไปเมื่อต้นปี และราคาหุ้นปรับตัวลง จน underperform ดัชนีตามคาด ทำให้มองว่าได้เวลากลับเข้าสะสมหุ้นเพื่อรอกำไรที่จะเริ่มฟื้นตัวขึ้นในครึ่งหลังของปีนี้ และรับการเติบโตของอุตสาหกรรมรับเหมางานฐานรากในปีหน้า ขณะที่ในงบดุลแทบจะไม่มีหนี้ คาดว่าจะหนุนให้ PYLON สามารถจ่ายเงินปันผลได้ในอัตรา 100% ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 4.3%-5.7% ในปี 59-60 สูงที่สุดในอุตสาหกรรม

ส่วนบทวิเคราะห์ บล.เออีซี ระบุว่า PYLON นับเป็นผู้นำเสาเข็มเจาะในไทยที่คาดได้อานิสงส์จากแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ และงานฐานรากตามอาคารและคอนโดมิเนียมที่จะผุดขึ้นตามแนวรถไฟฟ้า ขณะที่บริษัทมีจุดเด่นด้านการมีศักยภาพทำกำไรและฐานะการเงินแข็งแกร่งสุดในอุตสาหกรรม โดยในช่วง 2 ปีข้างหน้าคาดว่า PYLON จะมีกำไรเติบโตเฉลี่ยปีละ 27.6% ตามแนวโน้มการรับงานและมาร์จิ้นที่มีมากขึ้น จากในปี 59 ที่คาดว่าจะมีกำไรชะลอตัวหลังในช่วงครึ่งปีแรกทำกำไรได้ไม่ดีนัก ก่อนจะเริ่มฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังปีนี้จากปริมาณงานในมือที่เพิ่มขึ้นทั้งปริมาณและคุณภาพ

ขณะที่ราคาหุ้น PYLON ยังมี Upside อยู่มากจากราคาเป้าหมายปี 60 ที่ 12.10 บาท และคาดให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) ปี 60 ที่ 5.25%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ