JSP ตั้งเป้าปี 60 รายได้โต 20% ยอดขายโตรับแผนเปิด 7 โครงการใหม่มูลค่า 4.5 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 21, 2016 13:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสิทธิพร รัตนาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บมจ.เจ.เอส.พี. พร็อพเพอร์ตี้ (JSP) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 60 ราว 5 พันล้านบาท หรือเติบโต 20% จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้ 4 พันล้านบาท ปัจจัยสนับสนุนมาจากการเน้นเปิดโครงการแนวราบเป็นส่วนใหญ่ในปีหน้าทำให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้เข้ามาได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากโครงการแนวราบจะมีการโอนไม่เกิน 6 เดือน

"สัดส่วนรายได้ของโครงการแนวราบในสิ้นปี 60 คาดว่าจะเพิ่มเป็น 60% จากปีนี้ที่อยู่ที่ 30-35% หลังจากการเปิดโครงการแนวราบและมีการโอนมากขึ้นในปีหน้า โดยสัดส่วนรายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมจะลดลงจากปีนี้ที่อยู่ที่ 50% ตามการโอนการที่คอนโดมิเนียมเริ่มทยอยโอนลดน้อยลง"นายสิทธิพร กล่าว

บริษัทได้ตั้งเป้าหมายยอดขายในปี 60 ไว้ที่ราว 4.5 พันล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่าจะมียอดขาย 4 พันล้านบาท โดยโครงการใหม่ที่จะเปิดในปี 60 ทั้งหมด 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 4.54 พันล้านบาท แบ่งเป็น โครงการแนวราบ 6 โครงการ ได้แก่ โครงการ J City ติวานนท์-บางกระดี มูลค่า 458 ล้านบาท, โครงการ J Grand สาทร-กัลปพฤกษ์ มูลค่า 610 ล้านบาท, โครงการ J City รัตนาธิเบศร์-บางบัวทอง มูลค่า 687 ล้านบาท, โครงการ J Town เฟส 2 และ J Villa แพรกษา มูลค่า 1.15 พันล้านบาท, โครงการ J Villa บางปะกง 585 ล้านบาท และโครงการ J Legend Miami มูลค่า 790 ล้านบาท

ส่วนโครงการคอนโดมิเนียมที่จะเปิดขายในปีหน้ามี 1 โครงการ คือ โครงการ J Condo พระราม 2 มูลค่า 265 ล้านบาท มีกำหนดโอนในปีช่วงตั้งแต่ไตรมาส 1/61

นายสิทธิพร กล่าวว่า บริษัทตั้งงบซื้อที่ดินในปี 60 ราว 1 พันล้านบาท ลดลงจากปีนี้ที่ใช้ไป 4 พันล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีที่ดินในมือเพียงพอรองรับการพัฒนาโครงการในอนาคตค่อนข้างมากแล้ว ขณะเดียวกันบริษัทจะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทและที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อขออนุมัติวงเงินออกหุ้นกู้ 3 พันล้านบาท โดยจะเป็นการทยอยออกในปีหน้า อายุหุ้นกู้ 1-1.6 ปี วัตถุประสงค์เพื่อใช้เสริมสภพาคล่องการลงทุนโครงการต่าง ๆ ของบริษัท ซึ่งในปีนี้บริษัทได้ออกหุ้นกู้ไปครบตามจำนวนเงินที่ขอผู้ถือหุ้นไว้แล้ว 1.5 พันล้านบาท

สำหรับผลประกอบการในปีนี้ บริษัทมั่นใจว่ารายได้จะทำได้ตามเป้าหมาย 4 พันล้านบาท แม้ว่า 9 เดือนแรกจะมีรายได้ 1.67 พันล้านบาท ซึ่งยังไม่เป็นไปตามเป้าเกิดจากความล่าช้าของการโอนโครงการที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ อย่างไรก็ตามบริษัทได้เร่งการโอนมากขึ้นในไตรมาส 4/59 เพื่อผลักดันรายได้ให้เข้าเป้า โดยในเดือน ต.ค.ที่ผ่านมามีการโอน 500-600 ล้านบาท และในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้จะมีการโอนไม่ต่ำกว่านั้น

“การเร่งโอนโครงการในไตรมาส 4/59 จะช่วยให้ผลการดำเนินงานในไตรมาสสุดท้ายของบริษัทกลับมาเทริน์อะราวน์ได้จากไตรมาส 3/59 ที่ขาดทุนราว 85 ล้านบาท เพราะไตรมาส 3 ที่ผ่านมาเราติดปัญหาความล่าช้าในการโอน แต่ผลงาน 9 เดือนเราก็ยังมีกำไรอยู่"นายสิทธิพร กล่าว

ทั้งนี้ ในไตรมาส 4/59 บริษัทมีมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) ที่มีกำหนดโอนในปีนี้ 2 พันล้านบาท จาก Backlog ทั้งหมด 5.6 พันล้านบาท โดยส่วนที่เหลืออีก 3.6 พันล้านบาทจะทยอยโอนในปี 60 และ 61 ตามลำดับ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการคอนโดมิเนียมไมอามี่ บางปู

ส่วนยอดขายในปีนี้บริษัทปรับลดเป้าลงมาเป็น 4 พันล้านบาท จากเป้าเดิมที่ 5 พันล้านบาท เนื่องจากหลังหมดมาตรการรัฐที่ช่วยกระตุ้นในต้นปีที่ผ่านมาเห็นสัญญาณการชะลอตัวของการขายเกิดขึ้น ประกอบกับ ภาวะเศรษฐกิจไทยยังไม่เห็นการฟื้นตัวอย่างชัดเจน ส่งผลต่อความมั่นใจและการตัดสินใจในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ของลูกค้า โดยยอดขาย 10 เดือนของบริษัทอยู่ที่ 3.8 พันล้านบาท

ส่วนสถานการณ์อัตราการปฏิเสธสินเชื่อของบริษัทในปัจจุบันปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 10-20% จากต้นปี 30% จากการทำ Pre-approve ให้ลูกค้า แม้ว่าในปัจจุบันธนาคารพาณิชย์ยังคงมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ โดยเฉพาะธนาคารขนาดใหญ่ แต่ปัจจุบันเห็นธนาคารขนาดกลางเข้ามาให้สินเชื่อกับลูกค้ามากขึ้น แต่อาจจะมีเกณฑ์การให้สินเชื่อไม่เต็ม 100% ดังนั้น บริษัทจึงพยายามช่วยเหลือลูกค้าโดยการออกแคมเปญอื่นๆ อย่างเช่น ผ่อน 0% ระยะเวลา 3 เดือน เป็นต้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ