(เพิ่มเติม) BAY วางเป้าปีนี้สินเชื่อรายย่อยโต 11% ชะลอลงจากปีก่อนโต 15.9% จากฐานใหญ่ขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 20, 2017 15:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายแดน ฮาร์โซโน่ ประธานกลุ่มธุรกิจลูกค้ารายย่อยและลูกคค้าบุคคล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เอิดเผยว่า ธนาคารตั้งเป้าสินเชื่อรายย่อยในปี 60 เติบโต 11% จากปีก่อนที่มียอดสินเชื่อคงค้าง 6.45 แสนล้านบาท

การเติบโตของสินเชื่อรายย่อยแต่ละประเภท แบ่งเป็น สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์เติบโต 10% สินเชื่อที่อยู่อาศัยเติบโต 10-11% สินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันเติบโต 7-8% โดยในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาสินเชื่อยังมีแนวโน้มเติบโตได้ แต่อาจไม่สูงมากนัก เพราะมีการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น แต่ธนาคารยังมั่นใจว่าเป้าหมายสินเชื่อรายย่อยจะเติบโตได้ตามเป้าหมาย

นายแดน กล่าวว่า การเติบโตของสินเชื่อรายย่อยในปีนี้มีแนวโน้มชะลอการเติบโตลงเล็กน้อยเกปีก่อนที่เติบโต 15.9% เพราะฐานสินเชื่อรายย่อยของธนาคารเริ่มใหญ่มากขึ้น ทำให้การเติบโตชะลอลง แต่อย่างไรก็ตาม ธนาคารเชื่อว่าเศรษฐก์จไทยจะมีแนวโน้มที่เติบโตขึ้น ซึ่งคาดว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยไนปี 60 จะเติบโตได้ 3.3% จากปีก่อนที่เติบโต 3.2% จากการลงทุนโครงการต่างๆของภาครัฐที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และความต้องการใช้สินเชื่อทุกประเภทยังคงอยู่ในระดับสูง

ด้านการขยายเงินฝากรายย่อยในปีนี้ธนาคารตั้งเป้าเติบโต 2.2% จากมูลค่าพอร์ตเงินฝากรายย่อย ณ สิ้นปี 59 อยู่ที่ 6.09 แสนล้านบาท พร้อมกับตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) โต 11.7% หรือแตะ 4 แสนล้านบาท จากปีก่อน 3.62 แสนล้านบาท โดยกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของกลุ่มธุรกิจลูกค้ารายย่อยและลูกค้าบุคคลของธนาคาร คือ การสร้างความเติบโต การพัฒนานวัตกรรม และการเสริมสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าเพื่อยกระดับความสัมพันธ์สู่การเป็นธนาคารหลักที่ลูกค้ามาใช้บริการ (Main Operating Bank)

ขณะเดียวกันธนาคารจะใช้ความเชี่ยวชาญด้านลูกค้ารายย่อยในการสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจในกลุ่มประเทศ CLMV อย่างต่อเนื่อง รวมถึง Hattha Kaksekar Limited ธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ในกัมพูชา และบริษัท กรุงศรี บริการเช่าซื้อ จำกัด (Krungsri Leasing Services Co., Ltd.) ในสปป.ลาว พร้อมกับการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในการให้บริการเพื่อเชื่อมโยงลูกค้าออฟไลน์มาสู่ออนไลน์มากขึ้น โดยธนาคารยังต้องการรักษาตำแหน่งผู้นำสินเชื่อเพื่อรายย่อยและการรุกเสริมสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจในกลุ่มประเทศ CLMV อย่างต่อเนื่อง โดยนำเทคโนโลยีมาใช้ในการให้บริการตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างครอบคลุม

นายแดน กล่าวอีกว่า ธนาคารตั้งเป้าควบคุมระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของกลุ่มธุรกิจลูกค้ารายย่อยไม่เกิน 2.5% จากสินปีก่อนที่ NPL อยู่ที่ 2.21% โดยธนาคารยังคงมีการติดตามลูกค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อดูแนวโน้มการชำระหนี้ของลูกค้า โดยในขณะนี้ธนาคารยังไม่เห็นสัญญาณว่าระดับ NPL ของกลุ่มลูกค้าย่ยอยจะเพิ่มขึ้น แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจยังไม่เห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจนในช่วงนี้

ส่วนการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมในปี 60 ธนาคารตั้งเป้าเติบโต 5% จากปีก่อนที่เติบโต 11.7% ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่ลดลงค่อนข้างมาก เนื่องจากผลกระทบจากการเปิดให้บริการโครงการ National E-payment ของรัฐในปีนี้ทำให้รายได้ค่าธรรมเนียมลดลง ซึ่งธนาคารจำเป็นต้องเสียสละในส่วนนี้ไปเพื่อสนับสนุนการเดินหน้าของโครงการภาครัฐ แต่ธนาคารก็มีการให้การบริการแก่ลูกค้าอย่างหลากหลาย

สำหรับการเข้าซื้อกิจการใหม่ๆนั้น ธนาคารยังมองหาโอกาสการขยายกิจการเพิ่มเติมทั้งในและต่างประเทศ โดยจะต้องมีราคาที่เหมาะสม ซึ่งปัจจุบันธนาคารมีกระแสเงินสดที่เพียงพอ นอกจากนี้ ธนาคารยังวางแผนเปิดสาขาที่ร่วมทุนกับพันธมิตรเพิ่มเติมที่ปากเซของ สปป.ลาวในช่วงไตรมาส 2/60 จากปัจจุบันที่มีสาขาอยู่ที่เวียงจันทน์ รวมทั้งสนใจขยายธุรกิจไปในเวียดนามและเมียนมา แต่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะมีผู้เล่นที่แข็งแกร่งและมีผู้เล่นหลายราย จึงต้องศึกษากฏระเบียบอย่างเคร่งครัด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ