(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่ง Sideway up รอความชัดเจนนโยบายภาษีของ"ทรัมป์",ต่างชาติซื้อ 4 วันซ้อนหนุนตลาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 23, 2017 09:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway up โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย เพื่อรอดูความชัดเจนหลายอย่าง อย่างเรื่องนโยบายด้านภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งขณะนี้คนก็เริ่มไม่แน่ใจแล้ว ทำให้เริ่มมีการ take profit ออกมา

นอกจากนี้ ยังต้องรอดูการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ด้วย ว่าจะมีการส่งสัญญาณในเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่

อย่างไรก็ดี นักลงทุนต่างชาติได้กลับมาซื้อติดต่อกันถึง 4 วันแล้ว ทำให้ช่วยหนุนหุ้นขนาดใหญ่ไม่ปรับตัวลงแรง ดังนั้นตลาดฯก็คงจะปรับฐานไม่แรง ขณะเดียวกันราคาน้ำมันก็ยืนได้แถว 48 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และเริ่มมีการสร้างฐาน ดังนั้นอาจเห็นการกลับตัวก็ได้

อีกทั้งสัปดาห์หน้ายังมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 29 มี.ค.ที่จะต้องติดตาม โดยดูว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย หรือลดอัตราดอกเบี้ย เพราะขณะนี้ค่าเงินบาทแข็งค่ามากไป อีกทั้งยังต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของไทยในสัปดาห์หน้าด้วย

พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,560-1,573 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (22 มี.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,661.30 จุด ลดลง 6.71 จุด (-0.03%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,821.64 จุด เพิ่มขึ้น 27.81 จุด (+0.48%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,348.45 จุด เพิ่มขึ้น 4.43 จุด (+0.19%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 7.46 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.59 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 60.63 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 0.69 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 5.79 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 6.99 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.36 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (22 มี.ค.60) 1,566.66 จุด ลดลง 2.12 จุด (-0.14%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 66.41 ล้านบาท เมื่อวันที่ 22 มี.ค.60
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (22 มี.ค.60) ปิดที่ 48.04 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.4%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (22 มี.ค.60) ที่ 6.28 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 34.59 มองกรอบ 34.55-34.65 จับตาสุนทรพจน์ปธ.เฟด-"อเมริกันเฮลธ์แคร์"
  • คมนาคม ทบทวนแผนลงทุนรถไฟความเร็วสูง "กรุงเทพ-ระยอง" แอร์พอร์ตลิงก์ "พญาไท-ดอนเมือง" เผย EEC เคาะให้เป็นผู้ให้บริการรายเดียวกัน เพื่อบริหารจัดการมีประสิทธิภาพสูงสุด เชื่อม 3 สนามบินไร้รอยต่อ ด้าน "พิชิต" สรุปปรับแบบรถไฟทางคู่ "จิระ-ขอนแก่น" ยกระดับช่วงสถานีบ้านไผ่ ค่าก่อสร้างเพิ่มอีก 896 ล้านบาท ด้านซูเปอร์บอร์ดฯ แบ่งทีโออาร์รถไฟทางคู่ 5 สาย เป็น 13 สัญญา หวังเปิดทางรายกลางลงสนามประมูลได้มากขึ้น
  • ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้ากระทรวงพาณิชย์ เผยตัวเลขการส่งออกสินค้าไทยเดือน ก.พ. 2560 มีมูลค่า 1.84 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 2.76% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่หากรวมการส่งออก 2 เดือนของปีนี้ (ม.ค.-ก.พ.) ยังเพิ่มขึ้น 2.49% มูลค่า 3.55 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
  • นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้าง (ซูเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้าง) เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้างได้ประชุมร่วมกับคณะกรรมการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีความเห็นร่วมกันให้แก้สัญญาทีโออาร์รถไฟทางคู่ 5 สาย โดยจะมีการเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.)เห็นชอบต่อไป เพื่อรฟท.จะได้ทำร่างทีโออาร์ใหม่และยกเลิกทีโออาร์ของเดิม
  • ธปท.ยอมรับแบงก์ส่วนใหญ่ยังมีนโยบายปิดสาขามากกว่าตั้งแต่ปีก่อนรองรับไลฟ์สไตล์ลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปและบริหารต้นทุนดีขึ้น พบปรับขนาดสาขาและหมุนพนักงานทำงานหลากหลายขึ้น ย้ำมีการติดตามการปรับตัวแบงก์ การดูแลลูกค้า-พนักงานอย่างใกล้ชิด

*หุ้นเด่นวันนี้

  • MTLS (เคจีไอ) เป้า 40 บาท ประเมินกำไรปี 2560–61 โตเด่นเฉลี่ยปีละ 45% CAGR จากการขยายสาขาเชิงรุกปีละ 600 สาขา จนถึงเป้าหมาย 4 พันสาขาในปี 2563 พร้อมประเมินการหมดภาระผ่อนชำระหนี้รถคันแรกจะเป็น Catalyst ที่หนุนการเติบโตของสินเชื่อทะเบียนรถ สำหรับประเด็นเรื่องต้นทุนการเงินที่อาจเพิ่มขึ้นตามแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น ได้คำนึงถึงประเด็นนี้ในประมาณการฯแล้ว (คาด Credit cost ปี 2560 – 61 = 180bps และ 200bps ตามลำดับ เพิ่มขึ้นจาก 145bps ในปี 2559) แต่การเติบโตที่โดดเด่นของรายได้ที่โดดเด่นกว่า ทำให้คาดกำไรยังโตเด่นถึง 45% CAGR (2559 – 61)
  • TPCH (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 23 บาท เป็นหุ้นในกลุ่มพลังงานทดแทนที่มีกำไรโตโดดเด่นที่สุดในกลุ่ม โดยคาดกำไรปีนี้ +72% Y-Y ปีหน้า +76% Y-Y จากโรงไฟฟ้าที่ทยอย COD ส่วนแนวโน้มกำไร 1Q60 จะ new high จากโรงไฟฟ้าทุ่งสังกรีน (9.2MW, TPCH ถือ 65%) ที่ผลิตเต็มไตรมาส ส่วนโรงไฟฟ้าพัทลุงกรีนพาวเวอร์ จะเริ่ม COD กลาง เม.ย.
  • GPSC (ธนชาต) เป้า 42 บาท แม้คาดการณ์กำไรปี 2560 จะขยายตัวต่ำ +2.2% จากราคาก๊าซปรับสูงขึ้น, ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทลูกลดลง แต่สะท้อนไปในราคาหุ้นที่ปรับลดลงไปแล้ว มองเป็นโอกาส “ซื้อ" จากกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มึ้นระหว่าง 2560-2561 รวม 580MW หนุนกำไรกลับมาขยายตัว 21-12% ในปี 2561-2562
  • TRC (โกลเบล็ก) "ซื้อ"เป้า 1.75 บาท ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 60 ที่ 8 พันล้านบาท เติบโต 114%YoY (รับรู้รายได้จาก Backlog 3 พันล้านบาทและ APOT 5 พันล้านบาท) หากสามารถลงนามสัญญาก่อสร้าง APOT ได้ทันในไตรมาส 3/60 ฝ่ายวิจัยมีมุมมองว่าบริษัทจะสามารถลงนามสัญญาก่อสร้างกับ APOT ได้ในไตรมาส 3/60 เนื่องจากกระทรวงการคลังกำลังเพิ่มทุนเข้ามาที่ APOT ซึ่งเป็นการปลดล็อกการทำธุรกรรมกับธนาคาร โดยคาดว่าปี 60 กำไรจะเติบโต 75%YoY สู่ระดับ 529 ล้านบาท แม้ว่าอัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มปรับตัวลงสู่ 12-15% เนื่องจากงาน APOT มีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่างานในปัจจุบัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ