ธนาคารเกียรตินาคิน (KKP) รายงานผลการดำเนินงานภาพรวมงวดไตรมาส 1/60 ว่า ธนาคารและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ ไม่รวมส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยเท่ากับ 1,524 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.7% จากไตรมาส 1/59
ณ สิ้นไตรมาส 1/60 ยอดสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญและค่าเผื่อการปรับมูลค่าจากการปรับโครงสร้างหนี้มีจำนวน 10,913 ล้านบาท โดยมียอดสำรองทั่วไปทั้งสิ้น 4,500 ล้านบาท อัตราส่วนสำรองทั้งสิ้นต่อสำรองตามเกณฑ์เท่ากับ 188.1% เปรียบเทียบกับ 166.7% ณ สิ้นไตรมาส 1/59 และมีอัตราส่วนสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพเท่ากับ 110.0% เพิ่มขึ้นจาก 97.2% ณ สิ้นไตรมาส 1/59
ณ วันที่ 31 มี.ค.60 ธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) คำนวณตามเกณฑ์ Basel III ซึ่งรวมกำไรถึงสิ้นปี 2558 อยู่ที่ 18.36% โดยเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 เท่ากับ 14.87% แต่หากรวมกำไรถึงสิ้นไตรมาส 1/60 อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงจะเท่ากับ 20.86% และเงินกองทุนชั้นที่ 1 เท่ากับ 17.37%
ทั้งนี้ สินเชื่อของธนาคารในไตรมาส 1/60 ขยายตัว 1.3% จากสิ้นปี 59 โดยสินเชื่อของธนาคารที่มีการขยายตัวได้แก่ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยขยายตัวที่ 42.0% สินเชื่อ Micro SMEs ซึ่งรวมสินเชื่อ KK SME รถคูณ 3 ขยายตัว 22.1% สินเชื่อบุคคลขยายตัวที่ 11.7% สินเชื่อบรรษัทขยายตัวที่ 29.6% สินเชื่อ Lombard ขยายตัวที่ 7.9% ในขณะที่สินเชื่อเช่าซื้อหดตัว 2.5% จากสิ้นปี59
ในด้านคุณภาพของสินเชื่อ ปริมาณสินเชื่อด้อยคุณภาพรวมลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสิ้นปี 59 โดยสินเชื่อด้อยคุณภาพทั้งในส่วนของสินเชื่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และสินเชื่อเช่าซื้อยังคงมีการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ทั้งนี้ อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวม ณ สิ้นไตรมาสที่ 1/60 อยู่ที่ 5.6% อยู่ในระดับเดียวกับ ณ สิ้นปี 59
ในส่วนธุรกิจตลาดทุน ดำเนินงานโดย ทุนภัทร บล.ภัทร และ บลจ.ภัทร โดยบล.ภัทร มีส่วนแบ่งตลาด(SET และ mai) ไม่รวมบัญชีซื้อขายซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัท) ที่ 4.51% ลดลงจาก 4.81% ในปี 59 ซึ่งเป็นอันดับที่ 6 จากจำนวนบริษัทหลักทรัพย์ทั้งหมด 36 แห่ง ด้าน บลจ.ภัทร มีทรัพย์สินภายใต้การจัดการของกองทุนจำนวน 47,027 ล้านบาท