(เพิ่มเติม) SGP คาดรายได้ปีนี้อาจพลาดเป้าจาก 6 หมื่นลบ.หลังราคาขาย LPG ทรงตัวในระดับต่ำ,ปริมาณขายตามเป้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 20, 2017 16:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางจินตณา กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ (SGP) คาดว่ารายได้ปีนี้จะพลาดเป้าหมายที่ระดับ 6 หมื่นล้านบาทเล็กน้อย เนื่องจากราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ แต่ปริมาณขายทั้งยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่ราว 3.2-3.3 ล้านตัน เติบโต 5.2% จากปีก่อนอยู่ที่ 3.04 ล้านตัน

สำหรับแนวโน้มราคา LPG ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ คาดว่าจะสูงขึ้นเพราะเป็นช่วงฤดูหนาว แต่คาดว่าจะยังอยู่ในระดับไม่เกิน 500 เหรียญสหรัฐ/ตัน จากปัจจุบันราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 350-355 เหรียญสหรัฐ/ตัน

"ปีนี้ผลประกอบการยังมีการเติบโต แม้ว่ารายได้อาจจะไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากราคาก๊าซฯยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ แต่เรายังคงมั่นใจว่าผลประกอบการจะมากกว่าปีก่อนแน่นอนตามปริมาณการขายที่ปรับตัวสูงขึ้นทั้งในและต่างประเทศ ประกอบกับบริษัทสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ค่อนข้างดี"นางจินตณา กล่าว

อนึ่ง ปีที่แล้ว SGP มีรายได้ 4.82 หมื่นล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1.12 พันล้านบาท

นางจินตณา กล่าวว่า ส่วนการที่รัฐบาลจะลอยตัวราคา LPG ทั้งระบบตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.นี้ บริษัทค่อนข้างมั่นใจว่าจะเป็นสิ่งที่ช่วยสนับสนุนให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะบริษัทสามารถบริหารจัดการเรื่องต้นทุน และราคารับซื้อก๊าซฯ เข้ามาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถแข่งขันได้

โดยที่ผ่านมาบริษัทได้ขออนุญาตจากกรมธุรกิจพลังงานเพื่อนำเข้า LPG มาจำหน่ายในประเทศแล้ว 4.4 หมื่นตัน/เดือน และนำเข้า LPG เพื่อส่งออกอีกราว 3 พันตัน/เดือน ขณะที่บริษัทยังมีศักยภาพและความพร้อมด้านโลจิสติกส์ , คลัง LPG ,กองเรือกว่า 20 ลำ และกองรถขนส่งกว่า 1,000 คัน ปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 24-25% เป็นอันสองรองจากบมจ.ปตท. (PTT)

ขณะที่ล่าสุด บริษัท สยามลัคกี้มารีน จำกัด (SLM) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยได้เข้าซื้อเรือบรรทุกก๊าซ LPG มูลค่า 18 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 609.99 ล้านบาทนั้น โดยบริษัทได้เริ่มทยอยนำเข้าก๊าซ LPG จากต่างประเทศเข้ามาพอสมควรเพื่อมาจำหน่ายในประเทศ

อย่างไรก็ตามสถานการณ์ธุรกิจ LPG ในประเทศน่าจะแข่งขันรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของ LPG ภาคขนส่งที่อาจมีการตัดราคา แต่บริษัทก็จะร่วมมือกับบมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) เพื่อลงทุนทำสถานีบริการน้ำมันในสถานีบริการ LPG ของสยามแก๊ส โดยตั้งเป้าไว้ทั้งสิ้น 10 แห่ง เพื่อเป็นทางเลือกของผู้บริโภค นอกจากนี้บริษัทยังจะเน้นการขาย LPG ในภาคครัวเรือน และอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยผลักดันปริมาณขายของบริษัทเติบโตได้มากกว่าตลาดรวมที่คาดโต 2-3%

"เราได้เริ่มมีการเตรียมตัวมาหลายปีแล้วกับการที่จะปล่อยลอยตัวราคาก๊าซฯ ซึ่งบริษัทก็ได้ขยายกองเรือ กองรถ เพื่อที่จะได้ราคาก๊าซฯที่มีต้นทุนถูกที่สุด และสามารถแข่งขันได้ ซึ่งตอนนี้เราพร้อมแล้ว และเราเชื่อว่าจะเป็นผลดีกับเราที่จะสามารถแข่งขันในการขายได้มากขึ้นด้วย"นางจินตณา กล่าว

นางจินตณา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้บริษัทยังมีการดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมในประเทศเมียนมา กำลังการผลิต 230 เมกะวัตต์ โดยถือหุ้นในสัดส่วน 30% ซึ่งคาดว่าจะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรได้ในช่วงไตรมาส 3/60 โดยโรงไฟฟ้าดังกล่าวคาดว่าจะสร้างกำไรให้กับบริษัทปีละ 200 ล้านบาท นอกจากนี้อยู่ระหว่างศึกษาเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ ๆ เพิ่มเติม โดยจะเน้นในโรงไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ ที่สามารถต่อเนื่องกับธุรกิจของบริษัทในปัจจุบัน โดยมุ่งไปในต่างประเทศเป็นหลัก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ