(เพิ่มเติม) ตลท.ลั่นครึ่งปีหลังเน้นคุมคุณภาพ บจ.พร้อมเปิด LIVE Platform สำหรับ Startup-ประกาศหุ้นยั่งยืน THSI

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 26, 2017 16:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี 60 ตลท.จะมุ่งเน้นการให้ความสำคัญกับการเข้าไปควบคุมดูแลคุณภาพของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) หลังจากพบว่าช่วงที่ผ่านมามี บจ.ประสบปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ค่อนข้างมาก โดยที่ผ่านมามีบริษัทที่ผิดนัดชำระหนี้แล้ว ได้แก่ บมจ.เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ (KC) ,บมจ. ริช เอเชีย คอร์ปอเรชั่น (RICH) ,บมจ.อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น (IFEC) และบมจ.เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ (EARTH) เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันทาง ตลท.ก็ได้เข้าไปพูดคุยกับบริษัทที่น่าจะประสบปัญหาในลักษณะดังกล่าวและได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาแล้ว

"การผิดนัดชำระหนี้ ไม่ได้เป็นปัญหาเชิงระบบ แต่เป็นปัญหารายบริษัทเท่านั้น ที่เป็นส่วนน้อยที่มีปัญหาสภาพคล่อง ซึ่งในครึ่งปีหลังนี้ทางตลท. จะมุ่งเน้นการเข้าไปควบคุม ดูแลบริษัทที่ประสบปัญหาสภาพคล่อง โดยวิธีการก็จะเข้าไปพูดคุยและดูแนวทางในการช่วยเหลือ"นางเกศรา กล่าว

นางเกศรา กล่าวอีกว่า ภาพรวมการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง 60 ตลท.จะเดินหน้าตามแผนกลยุทธ์ โดยจะมีหลักทรัพย์ทยอยเข้าจดทะเบียนอย่างต่อเนื่อง หลังจากช่วง 6 เดือนแรกมีหลักทรัพย์เข้าใหม่ 11 หลักทรัพย์ มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO เพิ่ม 109,984 ล้านบาท จึงคาดว่ามูลค่าหลักทรัพย์จะเป็นไปตามเป้าที่กำหนดไว้ที่ 280,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ การเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในครึ่งปีหลังนี้จะมีบริษัทเข้าระดมทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมากกว่า 20 บริษัท เป็นไปตามเป้าหมายทั้งปีที่ 33-35 บริษัท ซึ่งจะประกอบไปด้วยบริษัทหลากหลายอุตสาหกรรม และมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (มาร์เก็ตแคป) เกินหมื่นล้านบาทราว 2-3 บริษัท ดังนั้น ทั้งปีก็คาดว่าจะมีมาร์เก็ตแคปรวมของ IPO เพิ่มเข้ามาราว 280,000 ล้านบาท

นางเกศรา กล่าวว่า การที่มีบริษัทเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพิ่มขึ้นนั้น เนื่องด้วยเศรษฐกิจไทยมีการฟื้นตัวดีขึ้น และคาดว่าในปีนี้จะขยายตัวราว 3.3-3.8% เป็นไปตามภาคการส่งออกที่เติบโตมากขึ้น ,ภาคการท่องเที่ยวเติบโตต่อเนื่อง , การลงทุนภาครัฐ และเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของการลงทุนภาคเอกชน

แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามปัจจัยภายนอกประเทศที่อาจจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย และความสามารถในการทำกำไรของ บจ.ไทย โดยเฉพาะความไม่แน่นอนของการดำเนินนโยบายทางการเงินและการคลังในต่างประเทศที่อาจจะส่งผลต่อทิศทางของเงินทุนเคลื่อนย้าย (Fund Flow)

ส่วนผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไทยยังดีต่อเนื่องจากปีก่อน โดยไตรมาสแรกมีกำไรสุทธิรวม 2.85 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากงวดเดียวกันในปีก่อน ขณะที่สภาพคล่องยังคงสูงสุดในภูมิภาค ด้วยมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์เฉลี่ยต่อวัน 46,549 ล้านบาท (SET+mai) ต่อเนื่องหลังครองอันดับหนึ่ง 5 ปีติดต่อกัน (55-59)

นางเกศรา กล่าวอีกว่า สำหรับการจัดงาน Thailand Focus 2017 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29-31 ส.ค.นี้ มีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทะเบียนแล้วไม่น้อยกว่า 130 กองทุน ถือว่าสูงสุดในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมา ขณะที่มี บจ.ไทยเข้าร่วมประมาณ 120-130 บริษัท สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยมากขึ้น อย่างไรก็ตาม Fund Flow จะมากหรือน้อยเพียงใด ยังไม่สามารถประเมินได้ แต่หากมองเมื่อปีที่ผ่านมาดัชนีหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้นไป 20% ปีนี้ต้องยอมรับว่าตลาดหุ้นต่างชาติดีกว่าตลาดหุ้นไทย

นอกจากนี้ ตลท.พร้อมขยายโอกาสการระดมทุนไปยังกลุ่มผู้ประกอบการ SME และ Startup ด้วยการพัฒนา LIVE Platform ให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุน และสามารถซื้อขายเปลี่ยนมือช่วยเพิ่มสภาพคล่อง โดยจะเปิดตัวในช่วงต้นไตรมาส 4/60 เพื่อเป็นแหล่งระดมทุนของ Startup คาดว่าจะมีบริษัทที่มีความพร้อมเข้ามาระดมทุนจำนวน 5 บริษัทภายในปีนี้ ซึ่งประกอบธุรกิจประเภท เช่น Health care , FinTech เป็นต้น มูลค่าการระดมทุนประมาณหลัก 1-10 ล้านบาทต่อราย

ขณะที่การพัฒนาสินค้าใหม่ TFEX Gold-D สัญญาซื้อขายที่อ้างอิงทองคำแท่งความบริสุทธิ์ 99.99% อยู่ระหว่างการเตรียมการเพื่อเปิดซื้อขาย และจะขยายเวลาซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับทองคำ ในช่วงเวลากลางคืนเป็น 19.00-23.55 น. (จากปัจจุบัน 19.30-22.30 น.) ให้สอดรับกับตลาดทองคำสำคัญของโลก

สำหรับการสร้างวัฒนธรรมการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลังยังคงดำเนินโครงการ #investnow ออมหมื่น ออมพัน สร้างฝันเงินล้าน รณรงค์ให้เกิดการทยอยลงทุนอย่างสม่ำเสมอ (Dollar-Cost Averaging: DCA) อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการใช้สื่อดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงเปิดให้บริการ FundConnext เมื่อ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ลงทุนสามารถลงทุนในกองทุนรวมได้สะดวกและรวดเร็ว และเพิ่มทางเลือกการลงทุนในกองทุนที่หลากหลายมากขึ้น

ทั้งนี้ ในช่วงเริ่มต้นมี บลจ. 5 แห่ง และ บล. 3 แห่ง ใช้บริการ พร้อมนำนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีมาพัฒนาเครื่องมือเพื่อการลงทุนตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้ลงทุน ด้วยการพัฒนาแอปพลิเคชันใหม่ Settrade Streaming for Fund เพื่อให้ผู้ลงทุนส่งคำสั่งซื้อขายกองทุนรวมด้วยตัวเองอย่างสะดวกและรวดเร็วขึ้น

นอกจากนี้ ตลท.เตรียมการปรับลดระยะเวลาชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ให้สามารถดำเนินการได้ใน 2 วันทำการ (T+2) ซึ่งอยู่ระหว่างพัฒนาระบบงาน เพื่อทดสอบกับสมาชิกก่อนเริ่มใช้จริง 2 มี.ค.61

ด้านการพัฒนาความยั่งยืน ตลาดหลักทรัพย์ฯ มุ่งส่งเสริมบริษัทจดทะเบียนเข้าร่วมคำนวณในดัชนี DJSI (Dow Jones Sustainability Index) เพิ่มขึ้น และจัดทำรายชื่อหุ้นยั่งยืน THSI (Thailand Sustainability Investment) ซึ่งเตรียมประกาศในเดือน พ.ย. นี้ นอกเหนือจากเชื่อมโยงภาคธุรกิจและภาคสังคมให้มาพบกันเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้และแบ่งปันทรัพยากรผ่าน SET Social Impact Platform และ SET Social Impact Day เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีทางสังคมแล้ว

ล่าสุด เตรียมจัดงานสานพลังบริษัทจดทะเบียนเพื่อสังคมไทยยั่งยืน ในวันที่ 21 ส.ค. นี้ เชื่อมโยงความร่วมมือบริษัทจดทะเบียนมาช่วยสนับสนุนภาคสังคมให้เกิดความเข้มแข็ง พร้อมตอกย้ำบทบาทการพัฒนาตลาดทุนที่ยั่งยืนของประเทศไทยในเวทีระดับโลก โดยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีของสหพันธ์ตลาดหลักทรัพย์นานาชาติ (Word Federation of Exchanges: WFE) ในเดือน ก.ย. ที่จะถึงนี้

ก้าวต่อไปจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงเดินหน้าตามแผนกลยุทธ์ พร้อมให้ความสำคัญในการพัฒนาตลาดทุนให้เป็นประโยชน์แก่ทุกภาคส่วน ภายใต้วิสัยทัศน์ “To Make the Capital Market ‘Work’ for Everyone"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ