"ทัตซึยะ"เผยส่งคืนหุ้น GL ที่ใช้เป็นค้ำประกันให้กลุ่มไซปรัสหลังขอชำระหนี้ก่อนกำหนดอีกก้อน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 28, 2017 15:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายทัตซึยะ โคโนชิตะ ประธานคณะกรรมการบริหาร บมจ.กรุ๊ปลีส (GL) เปิดเผยว่า Group Lease Holdings Pte. Ltd (GLH) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ GL ในประเทศสิงคโปร์ ได้รับการติดต่อจากผู้กู้กลุ่มไซปรัสเพื่อขอชำระคืนเงินกู้ยืมล่วงหน้าตามสัญญาเงินกู้บางฉบับอีกครั้ง และได้อนุมัติให้ผู้กู้ชำระคืนเงินกู้ยืมล่วงหน้าหลังจากที่พิจารณาแล้วว่าจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัท เนื่องจากจะเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารความเสี่ยงด้านสินเชื่อได้อย่างเหมาะสมมากยิ่งขึ้น และยังช่วยรักษาสัดส่วนระหว่างเงินกู้ยืมกับหลักประกันให้อยู่ในระดับที่ดี ถึงแม้อาจส่งผลกระทบกับรายได้จากดอกเบี้ยเงินกู้ยืมที่จะได้รับในอนาคตบ้างก็ตาม

ทั้งนี้ GLH ได้รับการชำระคืนเงินกู้ยืมล่วงหน้าตามสัญญาจำนวน 3 ฉบับจากผู้กู้กลุ่มไซปรัส (Adalene Limited) ซึ่งคำนวณตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.-30 ก.ย.60 ในครั้งนี้เป็นจำนวนเงิน 13,136,612 ดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่า 436,948,675 บาท และดอกเบี้ยค้างรับอีกจำนวน 489,158 ดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่า 16,270,324 บาท เป็นที่เรียบร้อย

ดังนั้น ภายหลังที่ผู้กู้กลุ่มไซปรัสได้คืนเงินกู้ยืมล่วงหน้าเต็มจำนวน GLH จึงได้คืนหุ้นสามัญของ GL จำนวน 11.5 ล้านหุ้นที่ถูกนำมาใช้เป็นหลักประกันการกู้ยืมเงินครั้งนี้ให้แก่ผู้กู้เป็นที่เรียบร้อย

หลังจากที่ได้รับชำระหนี้คืนหนี้เงินกู้ล่วงหน้าบางส่วนแล้ว GLH มียอดหนี้คงค้างที่ปล่อยกู้ให้แก่ผู้กู้ 2 กลุ่ม ได้แก่ ผู้กู้กลุ่มไซปรัสและผู้กู้กลุ่มสิงคโปร์ ณ วันที่ 22 ส.ค.60 จำนวนรวมทั้งสิ้น 56,108,604 ดอลลาร์สหรัฐ ในจำนวนนี้แบ่งเป็น 1.ผู้กู้กลุ่มไซปรัส มียอดเงินกู้คงค้างที่ยังไม่ครบกำหนดชำระจำนวน 16,461,654 ดอลลาร์สหรัฐ และดอกเบี้ยค้างรับอีกจำนวน 326,202 ดอลลาร์สหรัฐ และ 2.ผู้กู้กลุ่มสิงคโปร์ มียอดเงินกู้คงค้างที่ยังไม่ครบกำหนดชำระจำนวน 39,646,950 ดอลลาร์สหรัฐ

ขณะที่ หลักประกันการกู้ยืมที่ผู้กู้ทั้ง 2 กลุ่มนำมาใช้ค้ำประกันเงินกู้นั้น ปัจจุบันมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 72,470,251 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีมูลค่ามากกว่ายอดหนี้คงค้างคิดเป็น 129.16% และไม่มีการนำหุ้นสามัญของ GL มาใช้เป็นหลักประกันการกู้ยืมเงินแล้ว โดยมูลค่าหลักประกันดังกล่าวแบ่งเป็นหลักประกันของผู้กู้กลุ่มไซปรัสมีมูลค่า 23,698,202 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคิดเป็น 143.96% ของยอดหนี้คงค้าง และหลักประกันของผู้กู้กลุ่มสิงคโปร์มีมูลค่า 48,772,049 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคิดเป็น 123.02% ของยอดหนี้คงค้าง

นายทัตซึยะ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า การชำระหนี้คืนก่อนกำหนดถือว่าเป็นประโยชน์โดยตรงกับ GL เนื่องจากเป็นการชำระเงินต้นคืนก่อนกำหนด แต่ดอกเบี้ยค้างรับนั้นมีการชำระคืนจนถึงวันที่ 30 ก.ย.60 โดยขณะนี้ GL ได้ขยายธุรกิจไปยังประเทศเมียนมา ซึ่งมีศักยภาพสูงมากและสามารถปล่อยสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า 40% เทียบกับดอกเบี้ยประมาณ 15% จากผู้กู้กลุ่มไซปรัส โดย GL ได้โยกย้ายเงินทุนก้อนใหม่ไปสนับสนุนการขยายธุรกิจในเมียนมาแล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ