ECF-W2 ปิดเทรดวันแรกที่ 2.74 บาท มูลค่าซื้อขาย 46.36 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 3.00 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 3.16 บาท และราคาลงต่ำสุด 2.85 บาท
ส่วน ECF-W3 ปิดเทรดวันแรกที่ 1.42 บาท มูลค่าซื้อขาย 19.83 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 1.60 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 1.75 บาท และราคาลงต่ำสุด 1.35 บาท
ขณะที่หุ้น ECF ปิดตลาดที่ 6.40 บาท ลดลง 0.55 บาท (-7.91%) มูลค่าซื้อขาย 85.25 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 6.70 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 6.90 บาท และราคาลงต่ำสุด 6.25 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินมูลค่าที่เหมาะสมเบื้องต้น คาดว่า ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของ บมจ.อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค (ECF) ครั้งที่ 2 ใช้ชื่อย่อว่า ECF-W2 และ ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของ บมจ.อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค (ECF) ครั้งที่ 3 ใช้ชื่อย่อว่า ECF-W3 จะมี All-in Premium -7% และ 19% ตามลำดับ จากการประเมินมูลค่าที่เหมาะสมในปัจจุบันด้วยวิธี BSM อ้างอิงราคาปิดหุ้นแม่ที่ 6.95 บาท จะได้มูลค่าที่เหมาะสมของ ECF-W2 และ W3 ที่ 3.44 บาท และ 3.28 บาท ตามลำดับ
โดยมีปัจจัยที่ต้องระวังคือ ECF เป็นหุ้นที่มีความผันผวนสูงค่อนข้างสูง และซื้อขายที่ PER กว่า 98 เท่า เมื่อเปรียบเทียบ ECF-W2 และ W3 แล้ว โดยมองว่า ECF-W3 มีความน่าสนใจในการเก็งกำไรมากกว่า ECF-W2 เนื่องจากอายุที่ยาวกว่า, ราคาที่ต่ำกว่าและจากสถานะที่ In The Money ทั้งคู่ แต่ในด้านการซื้อเพื่อลงทุนหรือแปลงสภาพ มอง ECF-W2 มีความน่าสนใจมากกว่า จากการใช้สิทธิครั้งแรกในเดือนนี้ (ECF-W3 ใช้สิทธิครั้งแรก พ.ค. 2562)
อนึ่ง ECF-W2 และ W3 จะติด Cash Balance ตามหุ้นแม่ถึงวันที่ 17 พ.ย.
พร้อมประเมินกรอบมูลค่าของ ECF-W2 ไว้ที่ 3.24-3.64 บาท เมื่อราคาหุ้น ECF เคลื่อนไหวในกรอบ 6.70-7.20 บาท โดยมี Volatility 59% per year
ส่วน ECF-W3 มีมูลค่าอยู่ในกรอบ 3.09-3.45 บาท เมื่อราคาหุ้น ECF เคลื่อนไหวในกรอบ 6.70-7.20 บาท โดยมี Volatility 59% per year
ECF เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์จากไม้ปาร์ติเคิลบอร์ดและไม้ยางพารา กระดาษปิดผิว ไม้ยางพาราแปรรูปอบแห้ง เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ การจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพาราที่บริษัทเป็นผู้ผลิต และเฟอร์นิเจอร์ไม้จริงที่สั่งซื้อจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ และให้บริการตัดแผ่นปิดขอบไม้ (พีวีซี) เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ปาร์ติเคิลบอร์ด นอกจากนี้บริษัทได้จัดตั้งบริษัทย่อยเพื่อดำเนินธุรกิจด้านร้านค้าปลีก และเพื่อลงทุนด้านพลังงานทดแทน
ECF-W2 จำนวนที่ออก 194.93 ล้านหน่วย จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 4 หุ้นเดิม : 1 หลักทรัพย์แปลงสภาพ อัตราใช้สิทธิ 1 : 1 @ 3 บาท, อายุ 1 ปี 4 เดือน โดยสามารถใช้สิทธิได้ในทุกวันที่ 25 ของเดือน ก.พ., พ.ค., ส.ค. และ พ.ย. (สามารถใช้สิทธิได้ครั้งแรกในวันที่ 25 พ.ย. 60 และใช้สิทธิได้ครั้งสุดท้ายในวันที่ 20 ก.พ. 62)
ECF-W3 จำนวนที่ออก 129.95 ล้านหน่วย จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 6 หุ้นเดิม : 1 หลักทรัพย์แปลงสภาพ อัตราใช้สิทธิ 1 : 1 @ 5 บาท, อายุ 3 ปี 4 เดือน โดยสามารถใช้สิทธิได้ในทุกวันที่ 25 ของเดือน ก.พ., พ.ค., ส.ค. และ พ.ย. (สามารถใช้สิทธิได้ครั้งแรกในวันที่ 25 พ.ค. 62 และใช้สิทธิได้ครั้งสุดท้ายในวันที่ 20 ก.พ.64)