EA คาดผลการดำเนินงาน Q4/60 โตต่อเนื่องหลัง Q3/60 กำไรเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญจากการขายไฟฟ้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 13, 2017 10:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. พลังงานบริสุทธิ์ (EA) คาดว่าผลการดำเนินในช่วงไตรมาส 4/60 จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการที่พ้นช่วงฤดูฝนชุก และโรงไฟฟ้าพลังงานลมเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น จากกระแสลมที่พัดแรงมาก ส่งผลดีต่อภาพรวมผลการดำเนินงานในปีนี้ทั้งรายได้และกำไรที่จะสูงกว่าปีก่อนอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยในไตรมาส 3/2560 มีกำไรสุทธิ 978 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 260 ล้านบาท หรือ 36% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 718 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิงวด 9 เดือนแรกสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560 จำนวน 2,923 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 501 ล้านบาท หรือ 21% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 2,422 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการรับรู้รายได้เข้ามาเต็มงวดของโรงไฟฟ้า จ.พิษณุโลก กำลังการผลิต 90 เมกะวัตต์ และการรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานลม ที่จ.สงขลา และนครศรีธรรมราช กำลังการผลิต 126 เมกะวัตต์ (โครงการหาดกังหัน 1-3) ส่งผลทำให้มีกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลม รวมกันจำนวน 404 เมกะวัตต์

“กำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาส 3/60 มาจากการรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น แม้ว่าไตรมาสที่ 3 จะเป็นช่วงฤดูฝนซึ่งเป็นปกติที่โรงไฟฟ้าโซลาร์จะผลิตไฟฟ้าได้น้อยกว่าไตรมาสอื่น ๆ แต่ปรากฎว่าโรงไฟฟ้าพลังงานลมกลับสามารถผลิตไฟฟ้าได้ดี ด้านธุรกิจไบโอดีเซลในไตรมาสนี้มีปริมาณการขาย B100 เพิ่มขึ้น 51% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากได้รับผลบวกจากการที่ภาครัฐประกาศใช้น้ำมัน B7 ตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ในด้านราคาขาย B100 กลับอ่อนตัวลงตามราคาวัตถุดิบหลัก และราคาขายผลิตภัณฑ์ในตลาด ส่วนกลีเซอรีนซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์พลอยได้ มียอดขายเพิ่มขึ้น 67% ทั้งจากปริมาณการขายเพิ่มขึ้น 19% จากการขยายฐานลูกค้าและราคาขายเพิ่มขึ้น "นายอมรกล่าว

ส่วนความคืบหน้าการลงทุนในโครงการใหม่ ๆ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม หรือโครงการหนุมานที่ จ.ชัยภูมิ กำลังการผลิต 260 เมกะวัตต์ มีความคืบหน้าตามแผนงานที่วางไว้ คาดว่าน่าจะสร้างเสร็จและพร้อมจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ภายในปลายปี 2561

ส่วนการลงทุนสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ (Energy Storage) เฟส 1 กำลังการผลิต 1 กิกะวัตต์-ชั่วโมง (GWh) มูลค่าโครงการ ประมาณ 3,000 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการรวม 1 แสนล้านบาท นั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมพร้อมก่อนเริ่มก่อสร้าง คาดว่าจะเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ในต้นปี 2562 ส่วนเฟส 2 กำลังการผลิต 49 กิกะวัตต์-ชั่วโมง (GWh) อยู่ระหว่างการเตรียมการร่วมกับพันธมิตร ซึ่งจะได้ทำการเปิดเผยรายละเอียดให้ทราบต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ