บล.โกลเบล็ก ให้กรอบดัชนี 1,800 -1,837 จุด มองกรณีชัตดาวน์สหรัฐฯ กดดันตลาดหุ้นไทยไม่มาก

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 23, 2018 11:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก (GBS) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยเจอแรงกดดันช่วงสั้นจากที่ประชุมวุฒิสภาสหรัฐฯเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่สามารถผลักดันกฎหมายร่างงบประมาณชั่วคราวให้เห็นชอบได้ ส่งผลให้มีการประกาศมีการปิดหน่วยงานรัฐบาลชั่วคราว หรือ “Government Shutdown" เป็นครั้งแรกภายใต้คณะการบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แต่เชื่อว่าจะมีการตกลงกันได้ในที่สุดและส่งกระทบตลาดหุ้นไทยไม่มากนัก

อนึ่ง ล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ได้ลงนามเพื่อบังคับใช้กฎหมายงบประมาณชั่วคราวเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ ซึ่งถือเป็นการสิ้นสุดของภาวะการปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์) ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา และยังเปิดทางให้หน่วยงานส่วนใหญ่ของรัฐบาลสหรัฐสามารถกลับมาดำเนินการได้อีกครั้งในวันนี้

น.ส.วิลาสินี กล่าวว่า ขณะเดียวกันธนาคารขนาดใหญ่รายงานผลประกอบการปี 60 ต่ำกว่าคาดการณ์ของ Consensus เนื่องจากมีการตั้งสำรองหนี้สูญเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการใช้มาตรฐานบัญชี IFRS9 และที่สำคัญ fund flow มีความผันผวนมากขึ้น มีซื้อสุทธิสลับขายสุทธิ ในช่วง 1 เดือนย้อนหลังขายสุทธิ 2 พันล้านบาท

ทั้งนี้ มีปัจจัยบวกจากการรายงานตัวเลขการส่งออกในเดือน ธ.ค.60 ของกระทรวงพาณิชย์ขยายตัว 8.6% การส่งออกทั้งปี 60 เติบโต 9.9% ซึ่งดีกว่าคาด และราคาน้ำมันทรงตัวที่ระดับสูงในรอบ 3 ปีส่งผลบวกเชิงจิตวิทยาต่อหุ้นกลุ่มพลังงานช่วยพยุงดัชนี

ส่วนปัจจัยที่ยังต้องจับตาต่อเนื่อง คือ ในวันที่ 22-23 ม.ค. ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะมีการประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ยและเปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 26 ม.ค. และสถาบัน ZEW จะเปิดเผยความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนม.ค.ของสหภาพยุโรปและเยอรมนี ส่วนในวันที่ 24 ม.ค. สหรัฐ เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ(PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนม.ค. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันที่ 25 ม.ค. ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย สหรัฐ เปิดเผย จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และวันที่ 26 ม.ค. สหรัฐ เปิดเผยตัวเลข GDP ไตรมาส 4/2560

ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด ประเมินว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,800 -1,837 จุด แนะนำซื้อเก็งกำไร หุ้นที่มีปัจจัยบวก ชู หุ้น BDMS ได้ประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติฟื้นตัวอย่างมากหนุนการเติบโตของรายได้ผู้ป่วยชาวต่างชาติ ที่มีสัดส่วน 30% หุ้น CENTEL, ERW และ MINT ได้ประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือน ธ.ค. 60 ทำสถิติสูงสุดใหม่ของประเทศไทย และหุ้น AMATA, WHA ขานรับร่างพ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จะเข้าสู่ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ราวเดือนก.พ.นี้

สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า จากเหตุการณ์ shutdown จะสร้างแรงกระเพื่อมต่อตลาดการเงินทั้งตลาด โดยส่วนใหญ่ให้น้ำหนักว่าสหรัฐฯจะตกอยู่ในภาวะ shutdown ในช่วงสั้น ๆ ไม่เกินสัปดาห์ เนื่องจากเชื่อว่าพรรคเดโมแครตต้องการสร้างฐานเสียงล่วงหน้าก่อนการเลือกตั้ง ส.ส.ทั้งหมด และ ส.ว. จำนวน 1 ใน 3 ของสภาในช่วงปลายปีนี้

นอกจากนี้ การเพิ่มเพดานหนี้จะเป็นประเด็นใหญ่ในเดือนหน้าที่จะเป็นจังหวะให้ทั้ง 2 พรรคจะเข้าสู่โต๊ะเจรจากันอย่างจริงจังมากกว่า ทำให้ราคาสินทรัพย์ต่าง ๆ รวมถึงทองคำ ไม่ตอบสนองต่อการ shutdown เท่าใดนัก

อย่างไรก็ตาม การรีบาวด์กลับของตลาด cryptocurrency แต่นักลงทุนยังตกอยู่ในภาวะสับสนต่อแนวโน้มราคา หลังจากที่ทางการเกาหลีใต้และจีนต่างออกมายืนกรานจะควบคุมการซื้อขายอย่างใกล้ชิด ราคาที่สวิงผันผวนของสกุลเงินดิจิทัลจึงเป็นบวกต่อราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่สามารถพักเงินบางส่วนได้จนกว่าความปั่นป่วนในตลาดเงินดิจิทัล

ดังนั้นจึงประเมินกรอบการแกว่งตัวรายสัปดาห์ระหว่าง 1,310–1,350 ดอลลาร์สหรัฐ โดยแนะนำให้เล่นรอบในกรอบดังกล่าวและเน้นปิดทำกำไรระยะสั้นเพื่อลดความเสี่ยงเรื่องค่าเงิน และควรจับตาผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นและยุโรป ที่มีโอกาสจะประกาศปรับวงเงินตามมาตรการ QE และการเปิดเผยตัวเลข GDP สหรัฐฯว่าจะขยายตัวได้ในระดับ 3% หรือไม่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ