โบรกฯเชียร์"ซื้อ"AOT เล็งกำไรง Q1 งวดปี 60/61 แกร่งตามท่องเที่ยวโตหนุน,Upside เพิ่มจากประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 25, 2018 15:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ยังเชียร์"ซื้อ"หุ้น บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) จากปัจจัยพื้นฐานดี คาดกำไรไตรมาส 1 งวดปี 60/61 (ต.ค.-ธ.ค.60) แข็งแกร่ง โดยคาดว่าจะมีกำไรในช่วง 5,700-6,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสก่อน รับผลดีจากการเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยว ประกอบกับฐานนักท่องเที่ยวต่ำในงวดเดียวกันของปีที่แล้วในช่วงไว้อาลัยและการแก้ปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ

ขณะที่แนวโน้มกำไรของ AOT จะยังแข็งแกร่งต่อเนื่องในอนาคตจากการขยายสนามบินในอีก 10 ปีข้างหน้าเพื่อเพิ่มความสามารถในการรองรับ (capacity) การให้บริการผู้โดยสาร ขณะที่อุปสงค์การเดินทางทางอากาศกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และจะเกิดภาวะความไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งการปรับสมดุลจะเกิดจากการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิเฟส II ภายในปี 63 รวมถึงยังมี Upside จากการเปิดประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ของสนามบินก็จะช่วยหนุนรายได้เพิ่มขึ้นในอนาคต

ช่วงบ่ายหุ้น AOT อยู่ที่ 70.25 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อน ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ลดลง 0.09%

          โบรกเกอร์                    คำแนะนำ          ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          เคจีไอ (ประเทศไทย)             ซื้อ                 82.12
          หยวนต้า (ประเทศไทย)            ซื้อเก็งกำไร          71.00
          กสิกรไทย                       ถือ                 70.00
          เคทีบี (ประเทศไทย)              ซื้อ                 70.00 (อยู่ระหว่างทบทวนประมาณ)
          ทิสโก้                          ถือ                 69.00

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า AOT นับว่ามีปัจจัยพื้นฐานดี โดยในไตรมาส 1 งวดปี 60/61 คาดว่ามีกำไรสุทธิ 5,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสก่อน โดยรับผลจากการเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยวในไตรมาส 4/60 ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยผลักดันให้กำไรสุทธิทั้งปี 60/61 (ต.ค.60-ก.ย.61) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 26,801 ล้านบาท จากกำไรสุทธิ 20,684 ล้านบาทในงวดปี 59/60

นอกจากนี้ ยังต้องติดตามเรื่องการประมูลพื้นที่ร้านปลอดภาษีและพื้นที่เชิงพาณิชย์ ของสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งคาดว่าจะเปิดประมูลในเดือนมี.ค.61 ก็จะเป็น Upside ให้กับ AOT ทำให้มีแนวโน้มที่กำไรจะเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากราคาหุ้น AOT ในปัจจุบันได้ไต่ขึ้นมาเร็วเกินไปจนเต็มมูลค่าแล้ว ทำให้ฝ่ายวิจัยฯได้ปรับคำแนะนำมาเป็น"ถือ"สำหรับหุ้น AOT โดยให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 69 บาท/หุ้น

ด้านบทวิเคราะห์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุว่ากำไรสุทธิของ AOT ไตรมาส 1 งวดปี 60/61 จะออกมาแข็งแกร่งที่ 5,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.6% จากงวดปีก่อน และเพิ่มขึ้น 58.8% จากไตรมาสก่อน และคิดเป็น 24% ของประมาณการกำไรในปี 60/61 โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นมาจากฐานที่ต่ำในปีก่อนที่ถูกกระทบจากการปราบทัวร์ศูนย์เหรียญ และจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 68%, 88% และ 52% ในเดือน ต.ค., พ.ย. และ ธ.ค.60 รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวชาติอื่นก็เพิ่มขึ้นในอัตรา 12-22% ด้วย เช่น เกาหลีใต้, อินเดีย และญี่ปุ่น

ในอีก 10 ปีข้างหน้า AOT จะเพิ่ม capacity การให้บริการผู้โดยสารเป็น 181 ล้านคน/ปี จากสนามบินสุวรรณภูมิ เฟส 2 และสนามบินภูมิภาค จากปัจจุบันที่อยู่ระดับ 101 ล้านคน/ปี โดยมองว่าอุปสงค์การเดินทางทางอากาศกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และจะเกิดภาวะความไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งการปรับสมดุลจะเกิดจากการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 ภายในปี 63

ขณะที่การเปิดประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ของสนามบินต่าง ๆ จะทำให้ AOT มี Upside เพิ่มขึ้นจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างน้อยปีละ 269 ล้านบาทของพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่เพิ่มขึ้นของ Terminal 1 ในสนามบินดอนเมือง และรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดประมูลสัญญาสัมปทานร้านค้าปลอดภาษีและพื้นที่ค้าปลีก ทั้งที่ดำเนินการอยู่แล้วและโครงการใหม่ในสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งจะมีอัตราส่วนแบ่งรายได้สูงขึ้นตั้งแต่ปี 63 เป็นต้นไป และจะทำให้ AOT มีรายได้เพิ่มขึ้นปีละ 1 พันล้านบาท โดยสรุปแล้ว คาดว่าสองปัจจัยนี้จะทำให้รายได้ในระยะยาวของ AOT เพิ่มขึ้นปีละประมาณ 2,800 ล้านบาท

ทั้งนี้ ยังแนะนำ"ซื้อ"สำหรับ AOT ให้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 82.12 บาท ซึ่งรวมถึงการปรับเพิ่มประมาณการกำไรขึ้นอีก 2-3% หลังปีนี้ และการปรับสัมประสิทธิ์ beta เป็น 0.85x จากเดิม 0.95x จากแนวโน้มกำไรที่แข็งแกร่งตามการขยายสนามบิน อย่างไรก็ตามยังไม่ได้รวม Upside จากการปรับขึ้นค่าบริการผู้โดยสารขาออก (Passenger Service Charge:PSC) ตามแผนพัฒนาของบริษัท ซึ่งจะทำให้มูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 10 บาท/หุ้น

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า กำไรปกติไตรมาส 1 งวดปี 60/61 ของ AOT คาดว่าจะอยู่ที่ 6,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 21% จากงวดปีก่อน โดยรายได้เกี่ยวกับกิจกรรมการบินอยู่ที่ 8,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 15% จากงวดปีก่อน หนุนจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 9.5 ล้านคน เทียบกับฐานที่ต่ำในปีก่อนหน้าช่วงเหตุการณ์ไว้อาลัย

ด้านต้นทุนขาย (COGS) คาดที่ 6,700 ล้านบาท ลดลง 21% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 16% จากงวดปีก่อน โดย ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากงวดปีก่อน เนื่องจากการบันทึกค่าเช่าที่กรมธนารักษ์ส่วนเพิ่ม จากส่วนแบ่งค่าตอบแทนของมูลค่าทรัพย์สิน (ROA) ราว 225 ล้านบาท/ไตรมาส แต่ค่าใช้จ่ายลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เพราะไม่มีค่าใช้จ่ายรายการพิเศษในไตรมาสนี้ เทียบกับ 4 ปี 59/60 ที่บันทึกค่าเช่าที่กรมธนารักษ์ย้อนหลัง 1,400 ล้านบาท

ทั้งนี้ ผลประกอบการที่โดดเด่นในไตรมาสนี้ สอดคล้องกับมุมมองของหยวนต้าฯ ที่คาดกำไรสุทธิปี 60/61 เติบโต 9% เป็น 24,000 ล้านบาทและหาก AOT รายงานกำไรปกติไตรมาส 1 งวดปี 60/61 ใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ ก็จะคิดเป็น 25% ของประมาณการทั้งปีแล้วเช่นกัน

แต่หยวนต้าฯ ปรับลดคำแนะนำเป็น "ซื้อเก็งกำไร" จากเดิม"ซื้อ" หลังราคาหุ้นขึ้นกว่า 20% นับตั้งแต่ปรับราคาเหมาะสม AOT ขึ้นเป็น 71 บาท ในเดือน ต.ค.60 สะท้อนมุมมองเชิงบวกไปมากแล้ว และราคาปัจจุบันมี Valuation ตึงตัว คิดเป็น PE ในปี 61 ที่ 42x สูงกว่าค่าเฉลี่ยภูมิภาคที่ 37x แม้แนวโน้มกำไรปกติในไตรมาส 1 ของงวดปี 60/61 เติบโตเด่น แต่เป็นสิ่งที่คาดไว้แล้ว หาก AOT รายงานผลประกอบการตามทีคาด คิดเป็น 25% ของประมาณการปี 61 ขณะที่การรับบริหารสนามบินภูมิภาค และโครงการลงทุน Airport city จะยังไม่ได้ข้อสรุปในเร็ว ๆ นี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ