(เพิ่มเติม) ADB ตั้งเป้ายอดขายปี 61 โต 5-10% หลังดีมานด์กลุ่มเมึดพลาสติกคอมปาวด์เพิ่มตามเศรษฐกิจโลกฟื้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 14, 2018 14:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.แอ็พพลาย ดีบี (ADB) วางแผนผลักดันผลการดำเนินงานปี 61 เติบโตอย่างต่อเนื่องจากช่วงหลังของปีก่อน โดยตั้งเป้าหมายยอดขายทั้งปีเติบโต 5-10% หลังจากความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกคอมปาวด์ประเภทเม็ดพลาสติกพีวีซีในตลาดโลกกลับมาขยายตัวได้ดีตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว จึงทำให้บริษัทฯ ต้องเดินเครื่องจักรเต็มประสิทธิภาพการผลิตเพื่อรองรับคำสั่งซื้อสินค้าที่เพิ่มขึ้น โดยขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างปรับเครื่องจักรกลุ่มผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกคอมปาวด์เพิ่มเติม 1 สายการผลิต เพื่อเสริมกำลังการผลิตเพิ่ม โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตสินค้าได้ภายในไตรมาสแรกของปีนี้

ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์กาวและยาแนวได้วางแผนขยายตลาดต่างประเทศผ่านผู้แทนจำหน่ายสินค้า เช่น ภูมิภาคอาเซียน, ทวีปแอฟริกา ซึ่งมีความต้องการใช้สินค้าในงานก่อสร้างและปรับปรุงซ่อมแซม

ขณะเดียวกันได้เดินหน้าก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ (โรงงานที่ 4) ในจังหวัดสมุทรปราการเพื่อต่อยอดการผลิตสินค้ากลุ่มกาวยาแนว ได้แก่ 1.ซิลิโคนยาแนว และ 2.โมดิฟายซิลิโคนพอลิเมอร์สำหรับยาแนว และเพิ่มกำลังการผลิตสินค้าเดิม ได้แก่ 1.อะคริลิกยาแนว และ 2.กาวแทนตะปู ปัจจุบันการก่อสร้างคืบหน้าราว 80% เมื่อแล้วเสร็จจะทยอยติดตั้งและทดสอบเครื่องจักร คาดว่าจะเริ่มการผลิตสินค้าในไตรมาส 4/61 และจะเริ่มจำหน่ายสินค้าเพื่อรับรู้รายได้ตั้งแต่ต้นปีหน้าเป็นต้นไป ซึ่งจะสามารถดำเนินการผลิตและจำหน่ายเต็มกำลังการผลิตได้ในปี 63

นายหวัง วนาไพรสณฑ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ADB เปิดเผยว่า ภาพรวมของผลการดำเนินงานในปีนี้มีแนวโน้มฟื้นตัวกลับมาจากปีก่อนที่ชะลอตัวไป โดยในแง่ของอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิคาดว่าจะกลับมาอยู่ที่ระดับปกติ 18-20% และ 4-7% ตามลำดับ เป็นผลมาจากราคาวัตถุดิบผันผวนน้อยลง หลังสถานการณ์ของราคาน้ำมันดิบค่อนข้างนิ่ง แม้แนวโน้มราคาต้นทุนวัตถุดิบจะปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 15% ในช่วงเดือนแรกของปี 61 แต่บริษัทก็ได้มีการปรับราคาขายสินค้าให้สอดคล้องกับต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น เพื่อรักษาอัตรากำไรให้อยู่ในระดับตามที่บริษัทตาดหวัง

ขณะเดียวกัน บริษัทยังมียอดขายสินค้าเพิ่มขึ้นในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ให้อัตรากำไรนสูงเข้ามาช่วยหนุนผลการดำเนินงานในปีนี้ เช่น กลุ่มผลิตภัณฑ์เมึดพลาสติกคอมปาวด์ (PVC) ที่มีอัตรากำไรขั้นต้น 14-15% และผลิตภัณฑ์กาวและยาแนว มีอัตรากำไรขั้นต้น 20-25%

ประกอบกับในปีนี้บริษัทจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาเสริม คือ ผลิตภัณฑ์ PVC ที่เกี่ยวกับเครื่องมือทางการแพทย์ ซึ่งจะเริ่มผลิตและขายเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 2/61 โดยเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีความต้องการใช้สูง และมีอัตรากำไรคงที่ โดยบริษัทมีลูกค้าจากญี่ปุ่นเพื่อรับจ้างให้บริษัทผลิต (OEM) โดยผลิตภัณฑ์ใหม่ดังกล่าจะเป็นปัจจัยหนุนอย่างมีนัยสำคัญต่อภาพรวมของบริษัทในปี 61

ส่วนภาพรวมของผลการดำเนินงานไตรมาส 1/61 คาดว่าจะพลิกกลับมามีกำไรเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/60 ที่มีผลขาดทุน โดยการปรับตัวดีขึ้นมาจากการเติบโตขึ้นของยอดขาย โดยเฉพาะในกลุ่ม PVC หลังจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวทำให้การใช้ PVC เพิ่มมากขึ้น ทั้งกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และผู้ผลิตยานยนต์ ทำให้ยอดขายในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาเติบโต 15% ขณะที่สัดส่วนยอดขายของบริษัทยังคงมาจากในประเทศ 60% และจากการส่งออก 40% ซึ่งปีนี้จะคงสัดส่วนอยู่ในระดับดังกล่าว เนื่องจากความต้องการในประเทศยังสูง โดยเฉพาะสินค้าประเภท PVC

ด้านงบลงทุนในปีนี้ตั้งไว้ที่ 220-230 ล้านบาท จากเงินระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) โดยจะเป็นการสร้างโรงงานและซื้อเครื่องจักรในโรงงานแห่งที่ 4 จำนวน 200 ล้านบาท และอีก 20-30 ล้านบาทใช้ปรับปรุงโรงงานเก่าทั้ง 3 แห่ง ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตของ 4 ผลิตภัณฑ์ แบ่งเป็น ผลิตภัณฑ์ PVC 2,000 ตัน/ปี ผลิตภัณฑ์กาว 750 ตัน/ปี ผลิตภัณฑ์ยาแนว 500,000 หลอด/ปี และผลิตภัณฑ์ DIY 1 ล้านหลอด/ปี

นายหวัง เปิดเผยอีกว่า ในวันที่ 22 ก.พ.61 บริษัทจะมีการประชุคณะกรรมการบริษัทเพื่อพิจารณาอนุมัติผลการดำเนินงานปี 60 และจะมีการนำเรื่องการเสนอจ่ายเงินปันผลเข้ามาพิจารณา โดยบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 30% ของกำไรสุทธิ โดยจะพิจารณายอดขายไนเดือน ก.พ.นี้เข้ามาประกอบด้วย หากยังเห็นการเติบโตขึที่ดี ก็มีโอกาสสูงที่คณะกรรมการบริษัทจะพิจารณาให้จ่ายเงินปันผล แม้ว่าจะเป็นปีที่ผลการดำเนินของบริษัทไม่ค่อยดีนัก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ