(เพิ่มเติม) ศาลฯสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ ขสมก.ระงับมติจัดซื้อรถเมล์ NGV,ให้จ่ายค่าเสียหายยกเลิกสัญญา"เบสท์ริน"1.16 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday April 10, 2018 19:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาในคดีที่บริษัท สยาม สแตนดาร์ด เอนเนอจี้ ซึ่งเป็นผู้เข้าร่วมประมูลโครงการจัดซื้อรถเมล์ NGV จำนวน 489 คันเมื่อวันที่ 4 ต.ค.60 หรือหลังจากที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ยกเลิกสัญญาจัดซื้อรถเมล์จากบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ปแล้ว ได้ยื่นฟ้อง ขสมก.และคณะกรรมการบริหารกิจการ ขสมก.

ทั้งนี้ ศาลฯ มีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับตามมติของคณะกรรมการบริหารกิจการ ขสมก.ครั้งที่ 15/2560 เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.60 ที่อนุมัติสั่งซื้อรถเมล์ NGV จำนวน 489 คัน เป็นเงินทั้งสิ้น 1,891,452,000 บาท และที่อนุมัติสั่งจ้างซ่อมแซมและบำรุงรักษารถโดยสารจำนวน 489 คัน เป็นเงินทั้งสิ้น 2,369,388,375 บาทกับกลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO ซึ่งได้แก่ บมจ.ช.ทวี (CHO) และ บมจ.สแกนอินเตอร์ (SCN) โดยมิให้ ขสมก.และคณะกรรมการบริหารกิจการ ขสมก.นำมติดังกล่าวไปดำเนินการใดๆ ที่มีผลผูกพันเป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น

เนื่องจากศาลเห็นว่า มติคณะกรรมการบริหาร ขสมก.ครั้งที่ 15/2560 เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.60 และครั้งที่ 16/2560 เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.60 น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะปรากฏข้อเท็จจริงจากพยานว่าในการประชุมทั้ง 2 ครั้งดังกล่าวไม่มีการลงมติอนุมัติให้ ขสมก.เข้าทำสัญญา และไม่มีการรับรองรายงานการประชุมดังกล่าว แต่เป็นการพูดของประธานคณะกรรมการบริหาร ขสมก.เพียงคนเดียว

ทั้งนี้ ศาลฯ เห็นว่าการมีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับตามมติของคณะกรรมการบริหาร ขสมก.นั้นไม่เป็นอุปสรรคต่อการจัดทำบริการสาธารณะในการขนส่งผู้โดยสารในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพราะการจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าว 7 ครั้งที่ไม่ประสบความสำเร็จ ขสมก.สามารถให้บริการได้ด้วยรถดดยสารเดิมและรถโดยสารเอกชนร่วมบริการ

นอกจากนี้ ศาลปกครองกลางยังมีคำพิพากษาให้ ขสมก.ชดใช้ค่าเสียหายในคดียกเลิกสัญญาจัดซื้อรถเมล์ NGV อย่างไม่เป็นธรรมให้แก่บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป, บริษัท อาร์ แอนด์ เอ คอมเมอร์เชียล วิฮีเคิลส์ เอสดีเอ็น บีเฮชดี, บริษัท รถยนต์เซินหลง (เซี่ยงไฮ้) และบริษัท เทคโนโลยีพลังงานใหม่เป่ยฟังกวางโจว เนื่องจาก ขสมก.เป็นฝ่ายผิดสัญญาซื้อขายและจ้างซ่อมแซมบำรุงรักษารถยนต์โดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) ตามสัญญาเลขที่ ร.50/2559 ลงวันที่ 30 ก.ย.59

ทั้งนี้ ศาลฯ สั่งให้ ขสมก.จ่ายเสียหายรวมเป็นเงิน 1,159.97 ล้านบาท พร้อมอัตราดอกเบี้ย 7.5% ต่อปีของเงินต้น 1,147.83 ล้านบาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ โดยเป็นค่าเสียหายจากการไม่ชำระราคาค่ารถเมล์ NGV พร้อมดอกเบี้ย 1,048.50 ล้านบาท ค่าเสียหายจากการก่อสร้างศูนย์ซ๋อมบำรุง 12.09 ล้านบาท ค่าจ้างซ่อมแซมบำรุงรักษารถเมล์ NGV จำนวน 98.83 ล้านบาท และค่าเสียหายจากการคืนหนังสือค้ำประกันล่าช้า 5.47 แสนบาท นอกจากนั้น ยังให้คืนหนังสือค้ำประกันของธนาคารไอซีบีซี (ไทย) ให้แก่ผู้ฟ้องคดีภายใน 60 วัน

โดยศาลเห็นว่า การที่ ขสมก.ไม่ตรวจรับมอบรถโดยอ้างว่าได้รับหนังสือจากสำนักงานอัยการสูงสุดแจ้งว่าให้รอกรมศุลกากรพิจารณาถิ่นกำเนิดสินค้าก่อนหลังจากมีปัญหาถิ่นกำเนิดการนำเข้ารถเมล์ของเบสท์ริน รวมทั้งอ้างว่าส่งมอบรถไม่เป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนดในสัญญา เป็นการขัดแย้งกับข้อเท็จจริงที่คณะกรรมการตรวจสอบรับและทดสอบรถเมล์ NGV มีมติให้มีการส่งมอบเป็นงวด ๆ ได้ ดังนั้นการที่ ขสมก.อ้างสิทธิตามสัญญาว่ามีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ทันทีหาก เบสท์รินฯ ส่งมอบรถไม่ครบตามจำนวน และมีสิทธิริบหลักประกันรวมทั้งสิทธิเรียกค่าเสียหายจาก เบสท์รินฯ ได้นั้นเป็นข้ออ้างที่ไม่อาจรับฟังได้ การบอกสัญญาจึงไม่ชอบด้วยมาตรา 387 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

ส่วนที่ ขสมก.อ้างว่ารถเมล์ NGV ไม่ได้เป็นรถนำเข้าสำเร็จรูปทั้งคันจากประเทศจีน หรือเป็นรถที่ประกอบในประเทศไทย แต่เป็นรถที่ประกอบขึ้นที่ประเทศมาเลเซียนั้น ศาลเห็นว่า จากประกาศของ ขสมก.เรื่อง การจัดซื้อรถเมล์ NGV พร้อมซ่อมแซมและบำรุงรักษา มิได้ถือแหล่งผลิตหรือแหล่งประกอบรถเป็นสาระสำคัญ แม้ตามข้อตกลงในสัญญาตกลงที่จะซื้อขายรถที่ผลิตในประเทศจีนทั้งคัน แต่ข้อเท็จจริงเป็นการนำรถมาประกอบที่ประเทศมาเลเซียก็ไม่ใช่ข้อแตกต่างที่จะทำให้การจัดซื้อรถเมล์ NGV ของ ขสมก.ไม่บรรลุวัตถุประสงค์ในการบริการสาธารณะ ดังนั้นการที่ ขสมก.อ้างว่า บริษัท เบสท์รินฯ กับพวกเป็นฝ่ายผิดสัญญา และสามารถบอกเลิกสัญญาตามกฎหมายได้จึงไม่อาจรับฟังได้ จึงพิพากษาให้ ขสมก.ชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าว

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม กล่าวว่า กระทรวงจะมอบหมายให้ ขสมก.ยื่นอุทธรณ์ทั้งสองคดีภายใน 30 วันตามกฎหมาย และในระหว่างนี้ ขสมก.จะไม่ดำเนินการใด ๆ ในโครงการจัดซื้อรถเมล์ NGV แม้ว่าจะมีการรับมอบรถไปส่วนหนึ่งแล้ว แต่ก็ไม่แปลกใจที่ศาลมีคำสั่งดังกล่าวพร้อมเชื่อมั่นว่าในที่สุดแล้ว ขสมก.จะชนะคดี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ