ภาวะตลาดหุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าปรับฐาน การเมืองร้อน-ต่างชาติหวั่นข้อพิพาทเขาพระวิหาร

          นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นเช้านี้อยู่ในช่วงปรับฐานราคาต่อ เพราะพัฒนาการของเหตุการณ์ที่ผ่านมายังไม่เห็นอะไรที่เป็นบวกพอที่จะขับเคลื่อนตลาดหุ้นบ้านเราให้ปรับขึ้นไปได้ เรื่องการเมืองเป็นประเด็นความร้อนแรงเดิมๆ ก็ยังอยู่และไปเสริมด้วยความร้อนที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เขาพระวิหารก็เป็นประเด็นเพราะภาพที่ออกมาทำให้มุมมองของ Foreign Investment ถ้าเห็นภาพข้อพิพาทค่อนข้างเป็น Negative มากๆ ซึ่งจะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
          รวมทั้งตลาดต่างประเทศความเสี่ยงก็ยังคงมีอยู่เพราะประเด็นเรื่องซับไพร์รอบใหม่ที่ปะทุขึ้นมาก็ยังเป็นตัวกดดันตลาดต่างประเทศและอาจจะเป็นอีกแรงหนึ่งที่ต่างชาติยังมี net sell ในตลาดหุ้นบ้านเราอยู่ น่าจะเป็นตัวที่กดดันตลาดหุ้นต่อไป มองแนวรับ  650 แนวต้าน 680 จุด
          ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :  
          - ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด (18 ก.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 11,496.57 จุด เพิ่มขึ้น 49.91 จุด(+0.44%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,260.68 จุด เพิ่มขึ้น 0.36 จุด(+0.03%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,282.78 จุด ลดลง 29.52 จุด (-1.28%)  
          - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,744.79 ล้านบาทเมื่อวันศุกร์ (18 ก.ค.)
          - ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวันศุกร์ (18 ก.ค.) ที่ 128.88 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 0.41 ดอลลาร์ 
          - นักเศรษฐศาสตร์ชี้เศรษฐกิจครึ่งปีหลัง ถูกกระหน่ำจากทั้งปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลก ซ้ำเดิมเสถียรภาพการเมืองภายในประเทศ-น้ำมัน-เงินเฟ้อ ฉุดจีดีพีโตต่ำกว่า 5% แม้ว่าราคาน้ำมันมีแนวโน้มปรับลดลง แต่ยังผันผวน ขณะที่เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นยังกระทบต่อการบริโภคภายในประเทศ ด้านประธานสมาคมแบงก์ยันปัญหาสถาบันการเงินสหรัฐไม่กระทบภาคการเงินไทย
          - กรณีข้อพิพาทเขาพระวิหารกลายเป็นประเด็นร้อนในเวทีอาเซียน ขณะที่ไทย-กัมพูชาเจรจาวันนี้ ขณะที่นายพลเขมรระบุมีความหวังน้อยมากที่จะบรรลุข้อตกลง ด้านนายกฯ ชี้กัมพูชาแก้เกมยื่นร้องยูเอ็น ซัดกรรมการมรดกโลก 'เล่นเกม' โยนให้เป็นหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศจัดการ ด้านรัฐมนตรีสารสนเทศกัมพูชาอ้างแค่แจ้งยูเอ็นให้ทราบทหารไทยรุกดินแดน ปัดดึงสหประชาชาติแทรกแซงกรณีพิพาท
          - ภาคธุรกิจรื้อแผนฝ่าวิกฤติ รับพิษเศรษฐกิจโค้งสุดท้าย ประเมินกำลังซื้อถดถอยรุนแรง ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค อาหาร-เครื่องดื่ม ของใช้ประจำวัน ปรับแผนหันผลิตสินค้าไซส์เล็กควบคู่กำหนดราคาเท่าเดิม แห่ลดปริมาณ รับมือพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนหันซื้อสินค้าจำนวนน้อย และชิ้นเล็กลง เพื่อประหยัดเงินในกระเป๋าที่ลดลง จากภาวะเงินเฟ้อ และไม่มั่นใจเศรษฐกิจครึ่งปี
หลัง
          - นายกรัฐมนตรีเตรียมตอบโต้กลุ่มพันธมิตรโดยจะมีการจัดรายการโทรทัศน์ในวันจันทร์ถึงศุกร์ เวลาประมาณ 22.00 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NBT เริ่มวันนี้
          -นายกรัฐมนตรี ประกาศจะมีการปรับหลังวันที่ 28 ก.ค. นี้ โดยจะมีการปรับมากถึง 14 ตำแหน่ง มีการดึงคนนอกเข้ามาร่วม ครม. 4-5 คน 
          - รมว.คลัง เห็นชอบโครงสร้างจัดเก็บภาษีที่ดินสิ่งปลูกสร้างใหม่ แทนภาษีโรงเรือนที่ล้าสมัย ลั่นต้องยึดหลักคนมีรายได้มากก็ควรเสียภาษีสูงกว่าคนมีรายได้น้อย เตรียมชงเข้า ครม.อนุมัติเร็วๆ นี้
          - สบน.เผยเจบิคอนุมัติปล่อยกู้รถไฟฟ้าสีม่วงเพิ่ม 4-5 พันลบ.จากวงเงินกู้เดิม 32,000 ล้านบาท เนื่องจากต้นทุนค่าก่อสร้างสูงขึ้น
          - รมว.คมนาคม มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) ศึกษาความเป็นไปได้การก่อสร้างรถไฟฟ้าระบบโมโนเรลเพิ่มเติมจากแผนก่อสร้างรถไฟฟ้า 9 เส้นทาง