TUF เพิ่มทุนขายผถห.ระดมทุน 1.32 หมื่นลบ. ชำระคืนเงินกู้-ซื้อกิจการ,เพิ่มวงเงินหุ้นกู้

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 27, 2015 14:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ (TUF) จะเพิ่มทุน 1.2 พันล้านหุ้น ขายผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น หวังระดมทุนเงินทุนราว 400 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.32 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้ซื้อกิจการอื่นในอนาคต รวมถึงการซื้อกิจการของ
Bumble Bee HoldCo S.C.A. (Bumble Bee HoldCo) ในสหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในปีนี้

TUF แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท อนุมัติการลดทุนจดทะเบียนโดยตัดหุ้นที่ยังไม่ได้จัดสรร หลังจากนั้นให้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 1.49 พันล้านบาท จาก 1.19 พันล้านบาท โดยออกหุ้นใหม่ 1.2 พันล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 0.25 บาท ซึ่งจะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนใหม่ให้กับประชาชนทั่วไปโดยเฉพาะเจาะจง ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยคณะกรรมการจะมีการกำหนดรายละเอียด แต่เบื้องต้นราคาขายจะไม่ต่ำกว่าพาร์ของหุ้น และไม่ต่ำกว่า 70% ของราคาตลาด

ทั้งนี้ บริษัทมีวัตถุประสงค์จะให้ได้รับเงินเพิ่มทุนจำนวน 400 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.32 หมื่นล้านบาท ซึ่งบริษัทวางแผนจะใช้เงินในการเข้าซื้อกิจการอื่นในอนาคต รวมถึงการใช้เงินเพิ่มทุนเป็นส่วนหนึ่งของเงินลงทุนในการเข้าซื้อกิจการ Bumble Bee HoldCo หรือเพื่อชำระคืนเงินกู้ธนาคารที่มีอยู่ หรือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท

ขณะที่การเข้าซื้อกิจการ Bumble Bee HoldCo ยังคงอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาอนุญาตของหน่วยงานว่าด้วยการป้องกันการผูกขาดทางการค้าของสหรัฐอเมริกา และการดำเนินการตามเงื่อนไขบังคับก่อนที่กำหนดอยู่ในสัญญาซื้อขายกิจการ ในการนี้บริษัทคาดว่าการเข้าทำธุรกรรมดังกล่าวจะเสร็จสิ้นภายในปี 58

โดยการเพิ่มทุนจะทำให้บริษัทมีความแข็งแกร่งทางการเงินเพิ่มขึ้น และการซื้อ Bumble Bee HoldCo จะสร้างตำแหน่งทางการตลาดในฐานะผู้ผลิตภัณฑ์ปลาทูน่า และอาหารทะเลชั้นนำของโลก การเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างฐานการดำเนินธุรกิจของบริษัทในทวีปอเมริกาเหนือ ส่งผลให้กลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างกำไรเพิ่มสูงขึ้น ตลอดจนเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางด้านรายได้และกำไรของบริษัท และก่อให้เกิดโอกาสการรวมตัวทางธุรกิจ ระหว่างธุรกิจของ Bumble Bee HoldCo และบริษัท

นอกจากนี้คณะกรรมการยังอนุมัติการเพิ่มวงเงินออกและเสนอขายหุ้นกู้ เป็นจำนวนไม่เกิน 4 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันที่อยู่ภายในวงเงินไม่เกิน 2.5 หมื่นล้านบาท โดยจะเสนอขายแก่ผู้ลงทุนทั่วไป หรือผู้ลงทุนสถาบันในประเทศหรือต่างประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ