MBKET แจง Q1 กำไรโต 185%จากรายได้ค่านายหน้าฯ เพิ่มตามวอลุ่มตลาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 6, 2015 10:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายภูษิต แก้วมงคลศรี กรรมการและประธานเจ้าหน้าทีปฏิบัติการ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) (MBKET) ชี้แจงผลการดำเนินงานสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที 31 มีนาคม 2558 โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 364.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 236.72 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 185.13% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไรสุทธิ 127.87 ล้านบาท และเนื่องจากรายได้ค่านายหน้าเพิ่มขึ้น 425.81 ล้านบาท จาก 476.18 ล้านบาท เป็น 901.99 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 89.42 เนื่องจากรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 430.60 ล้านบาท จาก 425.97 ล้านบาท เป็น 856.57 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 101.09 เนื่องมาจากปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น โดยปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นจาก 4,977 ล้านบาท เป็น 9,784 ล้านบาท อันเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันโดยรวมของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจาก 27,719 ล้านบาท เป็น 49,910 ล้านบาท

รายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าลดลง 4.79 ล้านบาท จาก 50.21 ล้านบาท เป็น 45.42 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 9.54

รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มขึ้น 86.57 ล้านบาท จาก 8.53 ล้านบาท เป็น 95.10 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1,014.40 เนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมจากการรับประกันการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์และค่าที่ปรึกษาทางการเงินเพิ่มขึ้น 78.41 ล้านบาท และ 10.78 ล้านบาท ตามลำดับ

รายได้ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 55.56 ล้านบาท จาก 131.01 ล้านบาท เป็น 186.57 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 42.41 เนื่องมาจากการขยายตัวของตลาดทุนส่งผลให้เงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์เฉลี่ยสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2558 เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมียอดเงินให้กู้ยืมเฉลี่ย 9,676 ล้านบาท เป็น 13,870 ล้านบาท

ค่าใช้จ่ายรวมของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น 287.05 ล้านบาท จาก 546.49 ล้านบาท เป็น 833.54 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 52.53 ซึ่งค่าใช้จ่ายหลักที่เพิ่มขึ้นได้แก่ ต้นทุนทางการเงิน ซึ่งเพิ่มขึ้น 45.36 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 50.65 เนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ยที่จ่ายให้แก่เงินวางหลักประกันของลูกค้าและเงินกู้ยืมค่าธรรมเนียมและบริการจ่าย ซึ่งเพิ่มขึ้น 24.88 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 60.43 และค่าใช้จ่ายเกียวกับพนักงาน ซึ่งเพิ่มขึ้น 193.80 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 71.90 เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ และผลตอบแทนเจ้าหน้าที่การตลาด ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่านายหน้า

ภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้น 60.21 ล้านบาท จาก 32.54 ล้านบาท เป็น 92.75 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 185.05 เนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของกำไรก่อนค่าใช้จ่ายภาษี เงินได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ