หลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลง 64.79 จุด หรือ 0.37% แตะที่ 17,620.94 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 7.15 จุด หรือ 0.35% แตะที่ 2,041.57 จุด ดัชนี Nasdaq ลดลง 21.06 จุด หรือ 0.45% แตะที่ 4,654.66 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลงหลังจากมาร์กิตเปิดเผยผลสำรวจที่ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนพ.ย.ของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 54.7 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 55.9
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ขณะที่รายงานของมาร์กิตยังระบุด้วยว่า ดัชนียอดสั่งซื้อล็อตใหม่ในภาคการผลิตปรับตัวลดลงในเดือนพ.ย. ขณะที่ดัชนียอดส่งออกในภาคการผลิตร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2556 อย่างไรก็ตาม ดัชนีการจ้างงานในภาคการผลิตดีดตัวขึ้น
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆที่ส่งผลต่อภาวะการซื้อขายในวันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 15 พ.ย. ปรับตัวลง 2,000 ราย สู่ระดับ 291,000 ราย อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวปรับตัวลดลงไม่มากเท่ากับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 285,000 ราย
ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทรงตัวในเดือนต.ค. ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 0.1% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนก.ย. โดยปัจจัยที่ทำให้ดัชนี CPI เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับเป้าหมายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระดับ 2% นั้น มาจากราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลง นอกจากนี้ การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจทั่วโลกและสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า นับเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลให้ดัชนี CPI ของสหรัฐชะลอตัวลงด้วย