ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 3.07 จุด หลังหุ้น RBS ร่วง, GDP สหรัฐลดลง

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday February 28, 2015 05:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (27 ก.พ.) หลังจากเคลื่อนไหวผันผวนในระหว่างวัน โดยการร่วงลงของหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ บดบังการพุ่งขึ้นของหุ้น IAG ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของสายการบินบริติช แอร์เวย์ส นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายส่วนหนึ่งยังถูกกดดัน หลังจากที่มีการเปิดเผยตัวเลข GDP ของสหรัฐซึ่งลดลงจากตัวเลขประมาณการเบื้องต้น

ดัชนี FTSE 100 ขยับลง 3.07 จุด หรือ 0.04% ปิดที่ 6,946.66 จุด

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ช่วงไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว โดยระบุว่ามีการขยายตัว 2.2% ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ 2.6%

ด้านลอยด์ส แบงกิ้ง กรุ๊ป เผยกำไรสุทธิที่ 1.499 พันล้านปอนด์ (2.32 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปี 2557 ซึ่งดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับตัวเลขขาดทุนสุทธิ 802 ล้านปอนด์ในปีก่อนหน้า

นอกจากนี้ ลอยด์ส แบงกิ้ง กรุ๊ป ซึ่งรัฐบาลถือครองหุ้นอยู่ 23.9% ยังได้ประกาศจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เกิดวิกฤตการเงินในปี 2551

อินตู พรอพเพอร์ตีส์ เป็นแกนนำหุ้นลบ โดยร่วงลง 5.10% ตามด้วยรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ (RBS) ลดลง 5.02% หุ้นบาร์เคลย์ลดลง 1.98% หุ้นเวียร์ กรุ๊ป ลบ 1.73% หุ้นอเบอร์ดีน แอสเสท แมเนจเมนท์ ลบ 1.53%

หุ้น RBS ร่วงหนักสุดในรอบปี หลังจากที่มีรายงานความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการสอบสวนคดีการปั่นค่าเงิน

ส่วนหุ้นบวกนำโดย อินเตอร์เนชั่นแนล คอนโซลิเดเต็ด แอร์ไลน์ส กรุ๊ป (IAG) ที่พุ่งขึ้น 3.66% หลังจากบริษัทแม่ของสายการบินบริติช แอร์เวย์ส ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายกำไรจากการดำเนินงานปีนี้ 22% ซึ่งสร้างความพอใจให้กับนักลงทุน หุ้นแอสโซสิเอเต็ด บริติช ฟูดส์ บวก 2.5% หลังบาร์เคลย์แนะนำให้ซื้อหุ้น หุ้นลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป บวก 0.6% ภายหลังธนาคารประกาศว่าจะจ่ายเงินปันผลเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี

สำหรับเหตุการณ์ความเคลื่อนไหวที่ตลาดจับตาในสัปดาห์หน้าได้แก่ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษในวันพฤหัสบดี และการประกาศกรอบการทำงานของธนาคารกลางยุโรป (ECB) เกี่ยวกับมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ตามที่ ECB ได้เคยประกาศไว้เมื่อวันที่ 22 ม.ค.ว่าจะเข้าซื้อพันธบัตรจำนวน 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน จนถึงเดือนก.ย.ปีหน้า โดยเริ่มต้นในเดือนมี.ค. ซึ่งจำนวนเงินดังกล่าวมีมูลค่าสูงกว่าระดับ 5 หมื่นล้านยูโรที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ