ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 34.43 จุด หลังหุ้นเทคโนโลยีพุ่งช่วงท้ายตลาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday March 28, 2015 08:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 มี.ค.) หลังจากที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องตลอด 4 วันที่ผ่านมา โดยภาวะการซื้อขายค่อนข้างผันผวนและเงียบเหงา ดัชนีเคลื่อนไหวขึ้นๆลงๆในระหว่างวัน อย่างไรก็ดี ข่าวควบรวมกิจการช่วยกระตุ้นให้มีแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเข้ามาในช่วงท้ายตลาด และหนุนให้ตลาดปิดในแดนบวกได้ในที่สุด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 34.43 จุด หรือ 0.19% ปิดที่ 17,712.66 จุด ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 4.87 จุด หรือ 0.24% ปิดที่ 2,061.02 จุด ดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 27.86 จุด หรือ 0.57% ปิดที่ 4,891.22 จุด

แม้ปรับตัวขึ้นในวันศุกร์ แต่ตลอดสัปดาห์ ดัชนีหุ้นนิวยอร์กทั้ง 3 ดัชนี ได้ปรับตัวลดลง 2.3% 2.2% และ 2.7% ตามลำดับ

เทรดเดอร์กล่าวว่า ภาวะการซื้อขายค่อนข้างเงียบเหงา อย่างไรก็ดี หลังจากที่มีรายงานว่า อินเทล คอร์ป อยู่ในระหว่างการเจรจาซื้ออัลเทรา คอร์ป ก็ส่งผลให้หุ้นอินเทลกลับมาปรับตัวขึ้นได้ในสัปดาห์นี้ ขณะที่หุ้นอัลเทราทะยานถึง 28% ซึ่งมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ ข่าวดังกล่าวยังช่วยหนุนดัชนีหุ้นทั้ง 3 ดัชนีสามารถปิดแดนบวกได้ในวันสุดท้ายของสัปดาห์

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยในวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ช่วงไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว โดยระบุว่าชะลอตัวสู่ระดับ 2.2% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากคาดการณ์ในเดือนที่แล้ว

รายงานระบุว่า สาเหตุที่ไม่มีการปรับทบทวนตัวเลขจีดีพีนั้นเป็นเพราะ การเพิ่มขึ้นมากเกินคาดในส่วนของการส่งออก รวมถึงการใช้จ่ายและการบริโภคส่วนบุคคล ขณะที่สินค้าคงคลังภาคเอกชนลดลงน้อยกว่าที่ประเมินไว้

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขกำไรของภาคเอกชนในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว โดยระบุว่า กำไรของภาคเอกชน หลังการหักภาษี และไม่มีการปรับค่าตามมูลค่าสินค้าคงคลัง และการบริโภคทุน ลดลง 3% ในไตรมาส 4 เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ซึ่งนับเป็นการดิ่งลงของกำไรรายไตรมาสที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2011

ด้านผลสำรวจของรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐขั้นสุดท้ายของเดือนมี.ค.อยู่ที่ระดับ 93.0 จากตัวเลขเบื้องต้นที่ 91.2 แต่ต่ำกว่าระดับ 95.4 ของเดือนก.พ. โดยถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น และสภาพอากาศที่เลวร้าย ซึ่งส่งผลกระทบต่อครัวเรือนที่มีรายได้น้อย

ทั้งนี้ ก่อนปิดตลาดไม่นาน นางเจเน็ท เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในการประชุมที่ได้รับการสนับสนุนโดยเฟด ซานฟรานซิสโก ว่า การปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจสหรัฐนั้นหมายความว่า จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงต่อไปของปีนี้ แต่นางเยลเลนย้ำกว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยจะเป็นการปรับขึ้นทีละน้อยมาก

อย่างไรก็ตาม ถ้อยแถลงของนางเยลเลนแทบไม่มีผลใดๆต่อตลาด โดยนักวิเคราะห์กล่าวว่าถ้อยแถลงของประธานเฟดไม่มีอะไรใหม่ หรือแตกต่างออกไปจากที่ผ่านๆมา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ