ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 29.65 จุด วิตกผลประกอบการอ่อนแอ,ข้อมูลศก.ซบเซา

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 28, 2016 06:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (27 ต.ค.) หลังจากบริษัทจดทะเบียนบางแห่งเปิดเผยผลประกอบการที่ย่ำแย่ รวมถึงฟอร์ด มอเตอร์ และทวิตเตอร์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐปรับตัวลดลง ซึ่งสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,169.68 จุด ลดลง 29.65 จุด หรือ -0.16% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,215.97 จุด ลดลง 34.30 จุด หรือ -0.65% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,133.04 จุด ลดลง 6.39 จุด หรือ -0.30%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวน หลังจากบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่เปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอ โดยหุ้นฟอร์ด มอเตอร์ ร่วงลง 1.18% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรสุทธิลดลง 56% สู่ระดับ 957 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 หรือที่ระดับ 24 เซนต์/หุ้น เทียบกับตัวเลขกำไร 55 เซนต์/หุ้นในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ทั้งนี้ ฟอร์ดยังได้ประกาศปิดโรงงานในอเมริกาเหนือในเดือนนี้เพื่อลดกำลังการผลิตรถยนต์ เนื่องจากทางบริษัทยังคงเผชิญกับยอดขายที่ชะลอตัวในสหรัฐ, ค่าใช้จ่ายในการเรียกคืนรถยนต์ และความยากลำบากในการเปิดตัวรถปิกอัพรุ่นใหม่

ด้านบริษัททวิตเตอร์ อิงค์ เปิดเผยว่า บริษัทประสบภาวะขาดทุน 102.9 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 หรือ 15 เซนต์/หุ้น ขณะที่มีรายได้ 616 ล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ ทวิตเตอร์ประกาศปลดพนักงานราว 9% ทั่วโลก หรือคิดเป็นจำนวนมากกว่า 300 คนของพนักงานทั้งหมด โดยข่าวการปลดพนักงานดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่บริษัท Salesforce.com, วอลท์ดิสนีย์ และ อัลฟาเบท ต่างก็ไม่ได้แสดงความสนใจที่จะเข้าซื้อกิจการของบริษัท อย่างไรก็ตาม หุ้นทวิตเตอร์ปิดตลาดขยับขึ้น 0.6% เมื่อคืนนี้

หุ้นยูไนเต็ด พาร์เซิล เซอร์วิส (UPS) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการจัดส่งบรรจุภัณฑ์รายใหญ่ของสหรัฐ ปรับตัวลง 0.49% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาส 3 มูลค่า 1.27 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นเพียง 1% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

ส่วนหุ้นโคโนโคฟิลิป พุ่งขึ้น 5.3% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มแนวโน้มผลประกอบการตลอดปี 2559 ขณะที่หุ้นเทสลา มอเตอร์ ดีดตัวขึ้น 0.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด

นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ลดลง 0.1% ในเดือนก.ย. ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% เนื่องจากความต้องการซื้อคอมพิวเตอร์, สินค้าอิเลกทรอนิกส์ และอุปกรณ์ด้านการขนส่ง ปรับตัวลดลง

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 3,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 258,000 ราย ขณะที่สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ดีดตัวขึ้น 1.5% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 110

นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 1-2 พ.ย.นี้ เพื่อดูว่าคณะกรรมการเฟดจะส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.หรือไม่ นอกจากนี้ นักลงทุนยังติดตามดูตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2559 ของสหรัฐ ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ