ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 20.95 จุด จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มแบงก์,ค้าปลีก

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 14, 2017 06:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ก.ค.) โดยดาวโจนส์ปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร ก่อนที่เจพีมอร์แกน, ซิตี้กรุ๊ป และเวลส์ ฟาร์โก จะเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 ในวันนี้ และจากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มค้าปลีก นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เน้นย้ำในการแถลงนโยบายรอบครึ่งปีเมื่อวานนี้ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,553.09 จุด เพิ่มขึ้น 20.95 จุด หรือ +0.10% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,447.83 จุด เพิ่มขึ้น 4.58 จุด หรือ +0.19% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,274.44 จุด เพิ่มขึ้น 13.27 จุด หรือ +0.21%

หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวก ก่อนที่ธนาคารยักษ์ใหญ่ 3 แห่งของสหรัฐจะเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 ในวันนี้ ซึ่งได้แก่เจพีมอร์แกน เชส, เวลส์ ฟาร์โก และซิตี้กรุ๊ป ทั้งนี้ หุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 1.3% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ปรับตัวขึ้น 1.2%

หุ้นกลุ่มค้าปลีกดีดตัวขึ้น หลังจากบริษัททาร์เก็ต ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ คาดการณ์ว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นในไตรมาส 2 และคาดว่ากำไรในไตรมาสดังกล่าวจะสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยหุ้นทาร์เก็ต พุ่งขึ้น 4.8% หุ้นวอล-มาร์ท ปรับตัวขึ้น 1.5% หุ้นเมซีย์ ทะยานขึ้น 4.2% และหุ้นเบสท์ บาย พุ่งขึ้น 2.6%

นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดได้เน้นย้ำในระหว่างการแถลงนโยบายรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาเมื่อวานนี้เมื่อวานนี้ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่า การปรับลดงบดุลของเฟดจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงิน

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 3,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 247,000 ราย ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 1 เดือน โดยตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 123 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1970

ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ขยับขึ้น 0.1% ในเดือนมิ.ย.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากทรงตัวในเดือนพ.ค. และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI พุ่งขึ้น 2.0% ในเดือนมิ.ย. ขณะที่ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PPI ทรงตัวในเดือนมิ.ย.เมื่อเทียบรายเดือน และเพิ่มขึ้น 1.9% เมื่อเทียบรายปี

ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของดัชนี PPI ได้รับแรงบวกจากการปรับตัวขึ้นของค่าใช้จ่ายในภาคบริการ ขณะที่ราคาพลังงานปรับตัวลง

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิ.ย., ยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนพ.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ