ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับตัวขึ้นในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นในคืนนี้ ขานรับตัวเลขเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ
นอกจากนี้ ภาวะผ่อนคลายในคาบสมุทรเกาหลีก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยหนุนดัชนีในวันนี้
ณ เวลา 20.04 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าบวก 54 จุด หรือ 0.25% สู่ระดับ 22,006 จุด
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 0.6% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว หลังจากขยับขึ้น 0.3% ในเดือนมิ.ย.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดค้าปลีกจะเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ค.
ยอดค้าปลีกที่เพิ่มขึ้นในเดือนก.ค ได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของยอดขายรถยนต์ และสินค้าฟุ่มเฟือย
เมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 4.2% ในเดือนก.ค.
ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร เพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนพ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนมิ.ย.
ยอดขายรถยนต์พุ่งขึ้น 1.2% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2016 หลังจากเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนมิ.ย.
โฮม ดีโปท์ อิงค์เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรพุ่งขึ้น 9.5% ในไตรมาส 2 สู่ระดับ 2.67 พันล้านดอลลาร์ หรือ 2.25 ดอลลาร์/หุ้น เมื่อเทียบกับระดับ 2.44 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.97 ดอลลาร์/หุ้นในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
นอกจากนี้ ยอดขายของสาขาที่เปิดดำเนินการนานกว่า 1 ปี เพิ่มขึ้น 6.3% สูงกว่าระดับ 4.9% ซึ่งเป็นตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ทางด้านนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ กล่าวว่า เขาจะชะลอการตัดสินใจยิงขีปนาวุธไปตกลงในบริเวณเกาะกวม โดยจะจับตาดูความเคลื่อนไหวของสหรัฐก่อน
ส่วนนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐ และนายจิม แมททิส รมว.กลาโหมสหรัฐ ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐจะยังคงใช้แนวทางทางการทูตในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลี
ทั้งนี้ นายทิลเลอร์สัน และนายแมททิสได้ระบุในบทความที่มีการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลว่า "สหรัฐไม่มีความต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองของเกาหลีเหนือ หรือเร่งกระบวนการรวมชาติเกาหลี"