ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 พ.ย.) ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถาการณ์การเมืองในเยอรมนี ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการเจรจาถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.13% ปิดที่ 386.63 จุด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,409.64 จุด ลดลง 7.60 จุดหรือ -0.10% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,390.46 จุด เพิ่มขึ้น 10.92 จุด หรือ +0.20% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,059.84 จุด เพิ่มขึ้น 51.29 จุด หรือ +0.39% นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในเยอรมนี หลังจากพรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน (CDU) ของนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล คว้าน้ำเหลวในการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลผสม 3 ฝ่ายเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว ซึ่งส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า เยอรมนีอาจจัดการเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนด
อย่างไรก็ดี นางแมร์เคิลยืนยันว่า ตนพร้อมจะเป็นผู้นำพรรค CDU ในการชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง หากมีการเลือกตั้งใหม่ หลังจากที่การประชุมซึ่งนำโดยนางแมร์เคิลจากฝ่ายอนุรักษ์นิยม (CDU/CSU), พรรค FDP และพรรคกรีน (Green Party) ยังคงไม่สามารถหาข้อสรุปได้ หลังที่ประชุมไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับกรอบความร่วมมือใหม่ของพรรครัฐบาลผสมภายใต้ชื่อ "กรอบความร่วมมือจาไมก้า" (Jamaica Coalition)
นอกจากนี้ ตลาดยังมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองของอังกฤษ หลังนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้พูดคุยกับนายโดนัลด์ ทัสค์ ประธานคณะมนตรียุโรป ที่กรุงบรัสเซล โดยมีรายงานว่าอังกฤษอาจต้องจ่ายเงินให้กับสหภาพยุโรป (อียู) เป็นจำนวนเงิน 4 หมื่นล้านยูโร สำหรับการแยกตัวออกจากอียู โดยอียูกล่าวว่าการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษจะเดินหน้าต่อไปได้ก็ต่อเมื่อบรรลุการเจรจาดังกล่าวได้
หุ้นบีที กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทโทรคมนาคมชั้นนำ ร่วงลง 1% หลังมีรายงานว่าธนาคารดอยซ์แบงก์ได้ปรับลดราคาเป้าหมายของหุ้นดังกล่าวลงจาก 2.68 ยูโร เหลือเพียง 2.38 ยูโร
ขณะที่หุ้นของแพดดี้ เพาเวอร์ เบทแฟร์ ซึ่งเป็นบริษัทพนันออนไลน์ เพิ่มขึ้น 3.2% หลังมีรายงานว่าแพดดี้ เพาเวอร์ เบทแฟร์ ได้เข้าไปเจรจาควบรวมกิจการของบริษัทในเครือ กับคลาวด์เบ็ทซึ่งเป็นบริษัทพนันของออสเตรเลีย
อย่างไรก็ตาม ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดในแดนบวก หลังจาก Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 117.5 ในเดือนพ.ย. จากระดับ 116.7 ในเดือนต.ค. ซึ่งสูงกว่าระดับที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้