ดาวโจนส์พุ่งกว่า 200 จุด หลังร่วงติดต่อกัน 2 วัน บอนด์ยีลด์ชะลอตัวหนุนตลาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 22, 2018 22:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 200 จุดในวันนี้ หลังปรับตัวลงติดต่อกัน 2 วัน โดยได้ปัจจัยบวกจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐชะลอตัวลงในวันนี้ หลังจากพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 ปีวานนี้

ณ เวลา 21.39 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 25,016.31 จุด เพิ่มขึ้น 218.53 จุด หรือ 0.88%

หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลงในวันนี้ หลังจากพุ่งขึ้นวานนี้ ขานรับการเปิดเผยรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 2.919% หลังจากพุ่งแตะระดับ 2.950% เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 3.201% ในวันนี้

ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐทะยานขึ้นวานนี้ หลังจากรายงานการประชุมเฟดระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่คาดว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะดีดตัวขึ้นในปีนี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป

นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า เฟดจะต้องใช้ความระมัดระวังในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไปในปีนี้ เนื่องจากจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ ตลาดการเงินคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ โดยจะปรับขึ้นครั้งแรกในการประชุมเดือนหน้า

นายบูลลาร์ดกล่าวว่า เฟดจำเป็นต้องจับตาเศรษฐกิจ ซึ่งกำลังบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่ง แต่อัตราเงินเฟ้อก็ยังคงอยู่ในระดับต่ำ และมีแนวโน้มต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟดต่อไปอีกหลายปี

ทางด้านโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า เฟดมีแนวโน้มสูงมากที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า

ทั้งนี้ หลังจากที่เฟดได้เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 30-31 ม.ค.เมื่อวานนี้ โกลด์แมน แซคส์ระบุว่า มีโอกาสมากกว่า 95% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 20-21 มี.ค.

"รายงานการประชุมบ่งชี้ถึงแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และคาดการณ์การเร่งตัวมากขึ้นของเงินเฟ้อ" โกลด์แมน แซคส์ระบุในรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ