ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 440.53 จุด รับตัวเลขจ้างงานดีเกินคาด, ทรัมป์ยกเว้นภาษีเหล็ก-อลูมิเนียมบางประเทศ

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday March 10, 2018 06:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 มี.ค.) ปิดที่ระดับเหนือ 25,000 จุด เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา ขานรับข้อมูลตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาด ขณะที่ค่าจ้างเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุว่า เขาจะยกเว้นการเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมจากแคนาดาและเม็กซิโก ซึ่งเป็นสองประเทศคู่ค้าในข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA)

ดัชนีเฉลี่ยอุตสหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,335.74 จุด เพิ่มขึ้น 440.53 จุด หรือ +1.77% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,560.81 จุด เพิ่มขึ้น 132.86 จุด หรือ +1.79% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,786.57 จุด เพิ่มขึ้น 47.60 จุด หรือ +1.74%

สำหรับตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 3.3% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 4.2% เช่นเดียวกับดัชนี S&P500 ที่ปรับตัวขึ้น 3.5%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนก.พ. โดยพุ่งขึ้น 313,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 1 ปีครึ่ง ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปี

ขณะเดียวกัน ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 4 เซนต์/ชั่วโมง หรือ 0.15% โดยต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.2% สู่ระดับ 26.75 ดอลลาร์ และเพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบรายปี

ทั้งนี้ ตัวเลขค่าจ้างต่อชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ

นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขการจ้างงานในเดือนม.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 239,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง และทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขจ้างงานในเดือนธ.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 160,000 ตำแหน่ง

กระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่าในเดือนก.พ. ภาคเอกชนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 287,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาครัฐจ้างงานเพิ่มขึ้น 26,000 ตำแหน่ง ขณะที่ตัวเลขอัตราการเข้าสู่ตลาดแรงงานของสหรัฐ ซึ่งแสดงสัดส่วนของกำลังแรงงานต่อจำนวนประชากรทั้งหมด เพิ่มขึ้นที่ระดับ 63%

ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐออกมาระบุว่า เขาจะยกเว้นการเก็บภาษีนำเข้าเหล็กในอัตรา 25% และอลูมิเนียม 10% จากแคนาดาและเม็กซิโก ซึ่งเป็นสองประเทศคู่ค้าในข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) จาก และยังส่งสัญญาณยกเว้นภาษีให้กับประเทศอื่นๆ ด้วย ซึ่งจะช่วยลดโอกาสเกิดสงครามการค้า หากประเทศเหล่านี้เจรจาและสามารถตกลงกับสหรัฐได้ว่าสินค้าเหล็กและอลูมิเนียมของพวกเขาจะไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม ตลาดไม่ได้ให้ความสำคัญมากนักเกี่ยวกับรายงานข่าวที่ว่า ทรัมป์ได้ตกลงที่จะพบปะกับนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ หลังจากที่นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ได้แสดงเจตจำนงในการปลดอาวุธนิวเคลียร์ในระหว่างการหารือร่วมกับคณะผู้แทนเกาหลีใต้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ในส่วนของข้อมูลหุ้นอื่นๆนั้น หุ้นกลุ่มธนาคารอย่างโกลด์แมน แซคส์ ปรับตัวขึ้น 1.7% หลังหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า นายลอยด์ แบลงค์ไฟน์ ประธานบริหาร เตรียมเกษียณอายุภายในสิ้นปีนี้

ด้านหุ้นบิ๊กล็อตส์ ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกสินค้าลดราคา ดิ่งลงถึง 10% หลังยอดขายสินค้าในไตรมาสที่สี่ปรับตัวลง 0.1% สวนทางกับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะขยายตัว 1.3%

ขณะเดียวกัน หุ้นกุล่มยานยนต์อย่างดาน่า อิงค์ ปรับตัวขึ้น 3.6% หลังการประกาศควบรวมกิจการในส่วนธุรกิจเพลาขับร่วมกับบริษัทจีเคเอ็น พีแอลซี ในมูลค่ารวม 6.1 พันล้านดอลลาร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ