ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 116.36 จุด รับหุ้นพลังงานดีดตัว ขณะนักลงทุนจับตาประชุมเฟด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 21, 2018 06:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (20 มี.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ดีดตัวขึ้น หลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กทะยานขึ้นกว่า 2% อย่างไรก็ตาม หุ้นเฟซบุ๊กร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่สอง และได้ฉุดหุ้นโซเชียลมีเดียรายอื่นๆปรับตัวลงด้วย หลังจากรายงานว่า คณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FTC) กำลังสอบสวนกรณีการล้วงข้อมูลผู้ใช้บริการเฟซบุ๊กจำนวนมาก ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่วันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,727.27 จุด เพิ่มขึ้น 116.36 จุด หรือ +0.47% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,716.94 จุด เพิ่มขึ้น 4.02 จุด หรือ +0.15% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,364.30 จุด เพิ่มขึ้น 20.06 จุด หรือ +0.27%

หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นกว่า 2% เมื่อคืนนี้ อันเนื่องมาจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างซาอุดิอาระเบียและอิหร่าน รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่า เวเนซุเอลาจะลดกำลังการผลิตน้ำมัน

ทั้งนี้ หุ้นเชฟรอน ดีดตัวขึ้น 0.5% หุ้นโคโนโคฟิลิปส์ พุ่งขึ้น 2.11% หุ้นอนาดาร์โค ปิโตรเลียม พุ่งขึ้น 2.5% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ทะยานขึ้น 3.3% หุ้นเดวอน เอนเนอร์จี ดีดตัวขึ้น 1.2% หุ้นมาราธอน ออยล์ พุ่งขึ้น 2.7% หุ้นวาเลโร เอนเนอร์จี ปรับตัวขึ้น 1.5%

หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้นก่อนที่นักลงทุนจะรู้ผลการประชุมเฟด โดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ดีดตัวขึ้น 0.1% หุ้นซิตี้กรุ๊ป ขยับขึ้น 0.3% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ปรับตัวขึ้น 0.2%

หุ้นเฟซบุ๊ก ร่วงลง 2.8% และได้ฉุดหุ้นบริษัทโซเชียลมีเดียรายอื่นๆร่วงลงด้วย รวมถึงหุ้นทวิตเตอร์ ร่วงลง 10.4% หุ้นสแนป ดิ่งลง 2.5% หลังจากคณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FTC) กำลังสอบสวนว่า การที่เฟซบุ๊กมีการใช้ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการ ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงที่ทางบริษัททำไว้กับทาง FTC ในปี 2554 หรือไม่ ทางด้านนายดาเมียน คอลลินส์ สมาชิกรัฐสภาอังกฤษ ได้ส่งหนังสือฉบับหนึ่งถึงนายมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของเฟซบุ๊ก เพื่อให้เขาเข้าชี้แจงต่อทางการอังกฤษ กรณีที่เฟซบุ๊กมีความเกี่ยวข้องกับแคมบริดจ์ อนาลิติกา ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์การเมือง

รายงานดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่มีข่าวว่า แคมบริดจ์ อนาลิติกา ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์การเมือง สามารถเข้าถึงข้อมูลโปรไฟล์ของผู้ใช้บริการเฟซบุ๊กจำนวน 50 ล้านคนโดยไม่ได้รับอนุญาต และเอื้อประโยชน์ต่อทีมหาเสียงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2559

หุ้นออราเคิล ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์รายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 9.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสที่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของวอลล์สตรีท

นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดซึ่งมีการแถลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่วันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย ขณะที่ CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 94.4% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกในปีนี้ และมีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในเดือนมิ.ย. และครั้งที่ 3 ในเดือนก.ย.

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 4/2560, ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.พ., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนมี.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนมี.ค.จากมาร์กิต, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.พ. และยอดขายบ้านใหม่เดือนก.พ.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ