ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 54.95 จุด วิตกบอนด์ยีลด์พุ่ง,ข้อพิพาทการค้าสหรัฐ-จีน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 18, 2018 06:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 พ.ค.) โดยได้รับผลกระทบจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งขึ้นทะลุระดับ 3.10% ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 7 ปี นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยการเจรจาการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐและจีนยังไม่มีการส่งสัญญาณในด้านบวกจนถึงขณะนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,713.98 จุด ลดลง 54.95 จุด หรือ -0.22% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,720.13 จุด ลดลง 2.33 จุด หรือ -0.09% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,382.47 จุด ลดลง 15.82 จุด หรือ -0.21%

ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดอ่อนแรงลง หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวสู่ระดับ 3.106% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2554 เมื่อคืนนี้ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.230%

การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ จะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดการเงินดีดตัวขึ้นตามไปด้วย โดยล่าสุดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อการจำนองของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีเมื่อคืนนี้ ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงสำหรับอัตราเงินกู้จำนอง และอัตราดอกเบี้ยตราสารหนี้ รวมทั้งเครื่องมือทางการเงินในระบบ

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง โดยหุ้นไมโครซอฟท์ ดิ่งลง 1% หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ลดลง 0.7% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ร่วงลง 0.9% หุ้นอเมซอนดอทคอม ปรับตัวลง 0.3% หุ้นแอปเปิล ลดลง 0.6%

หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ ร่วงลง 3.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 1 ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของวอลล์สตรีท

หุ้นเจซี เพนนีย์ ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าชื่อดังของสหรัฐ ดิ่งลง 12.4% หลังจากบริษัทยอดขายเพิ่มขึ้น 0.2% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 2% นอกจากนี้ รายได้ลดลงสู่ระดับ 2.58 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.61 พันล้านดอลลาร์ ส่วนตัวเลขขาดทุนสุทธิลดลงสู่ระดับ 22 เซนต์/หุ้น ต่ำว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 23 เซนต์/หุ้น

หุ้นวอลมาร์ท ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ร่วงลง 1.9% แม้บริษัทเปิดเผยทั้งรายได้และกำไรที่สูงกว่าคาดการณ์ โดยวอลมาร์ทระบุว่า บริษัทมีรายได้ 1.2269 แสนล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 1.2051 แสนล้านดอลลาร์ ส่วนกำไรอยู่ที่ 1.14 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.12 ดอลลาร์/หุ้น และยอดขายเพิ่มขึ้น 2.1% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.0%

ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น โดยหุ้นเชฟรอน ขยับขึ้น 0.8% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม พุ่งขึ้น 1.3% หุ้นมาราธอน ออยล์ เพิ่มขึ้น 2.2%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้แสดงความเห็นล่าสุดเมื่อคืนนี้ว่า เขาเริ่มไม่มั่นใจว่าการเจรจาการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐและจีนซึ่งกำลังดำเนินไปอยู่ในขณะนี้ จะประสบความสำเร็จหรือไม่ เนื่องจากจีนมีท่าทีปกป้องผลประโยชน์ของตนเองมากเกินไป

นายแลร์รี่ คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะพบปะกับนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน และที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในวันนี้ที่ทำเนียบขาว ขณะที่นักลงทุนจับตาความเคลื่อนไหวดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพื่อดูว่าการเจรจาการค้าระหว่าง 2 ชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจจะมีความคืบหน้าหรือไม่

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 11,000 ราย สู่ระดับ 222,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 215,000 ราย

ทางด้าน Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ปรับตัวขึ้น 0.4% สู่ระดับ 109.4 ในเดือนเม.ย. โดยปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมี.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ