ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 1.11 จุด ขณะนักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday May 19, 2018 06:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 พ.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,715.09 จุด เพิ่มขึ้น 1.11 จุด หรือ +0.00% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,712.97 จุด ลดลง 7.16 จุด หรือ -0.26% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,354.34 จุด ลดลง 28.13 จุด หรือ -0.38%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา ขณะที่นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้ารอบที่ 2 ระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งมีกำหนดเสร็จสิ้นในวันนี้ อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ออกมากล่าวก่อนหน้านี้ว่า ความพยายามของสหรัฐในการแก้ไขความขัดแย้งทางการค้ากับจีน อาจไม่ประสบผลสำเร็จ

ต่อมา มีรายงานข่าวว่า ทางการจีนได้ยื่นข้อเสนอเพื่อซื้อสินค้าของสหรัฐ รวมถึงมาตรการอื่นๆ เพื่อลดการขาดดุลการค้าของสหรัฐลงราว 2 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี

ขณะที่ทางการจีนได้ออกมาปฏิเสธรายงานข่าวดังกล่าวในเวลาต่อมา

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งขึ้นทะลุระดับ 3.10% ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 7 ปี ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 10 ปี โดยนักลงทุนพากันเทขายพันธบัตร เนื่องจากวิตกว่าการดีดตัวขึ้นของเงินเฟ้อจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้

การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ จะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดการเงินดีดตัวขึ้นตามไปด้วย โดยล่าสุดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อการจำนองของสหรัฐได้พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงสำหรับอัตราเงินกู้จำนอง และอัตราดอกเบี้ยตราสารหนี้ รวมทั้งเครื่องมือทางการเงินในระบบ

หุ้นแคมป์เบล ซุป ลดลง 12.4% หลังจากบริษัทออกมาประกาศปรับลดแนวโน้มผลประกอบการตลอดทั้งปี พร้อมแต่งตั้งซีอีโอคนใหม่แทนคนเก่าที่เกษียณอายุไป ขณะที่หุ้นแอพพลาย แมททีเรียล ลดลง 8.3% และหุ้นนอร์ดสตรอม ร่วงลง 10.9%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ