ดาวโจนส์ดิ่งกว่า 200 จุด นักลงทุนแห่ขายหุ้น ตื่นข่าว"ทรัมป์"ล้มประชุมซัมมิต"คิมจองอึน"

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 24, 2018 21:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 200 จุดในวันนี้ โดยนักลงทุนแห่เทขายหุ้น หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ตัดสินใจยกเลิกการประชุมสุดยอดกับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ

ณ เวลา 21.51 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 24,667.83 จุด ลดลง 218.98 จุด หรือ 0.88%

หุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงนำตลาดวันนี้ ตามราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลง ขณะที่หุ้นโกลด์แมน แซคส์ร่วงลงมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ตัดสินใจยกเลิกการประชุมสุดยอดกับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ซึ่งเดิมมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 12 มิ.ย.ที่สิงคโปร์

"เป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่ง เมื่อพิจารณาจากแถลงการณ์ล่าสุดของท่านซึ่งได้แสดงความโกรธ และความมุ่งร้ายอย่างเปิดเผย ผมรู้สึกว่ายังไม่เป็นการเหมาะสมในขณะนี้ที่จะมีการจัดการประชุมดังกล่าวที่มีการวางแผนมาอย่างยาวนาน" ปธน.ทรัมป์ระบุในจดหมายที่ส่งถึงนายคิม ซึ่งมีการเผยแพร่ในวันนี้

ข้อความในจดหมายดังกล่าวยังระบุว่า "ท่านพูดเกี่ยวกับสมรรถนะด้านนิวเคลียร์ของท่าน แต่เราก็มีอาวุธนิวเคลียร์จำนวนมาก และมีพลานุภาพเป็นอย่างมาก ซึ่งผมขอภาวนาต่อพระเจ้าว่าอาวุธนิวเคลียร์เหล่านี้จะไม่ถูกนำมาใช้"

นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังระบุว่า "ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีโอกาสพบกับท่านในอนาคต และผมขอขอบคุณท่านที่ได้ปล่อยตัวประกันชาวอเมริกันซึ่งขณะนี้ได้กลับบ้าน และอยู่กับครอบครัวแล้ว นี่เป็นการแสดงออกที่งดงาม และผมรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก"

อย่างไรก็ดี ปธน.ทรัมป์ยังคงเปิดโอกาสสำหรับการจัดการประชุมสุดยอดในอนาคต โดยระบุว่า "ถ้าท่านได้เปลี่ยนใจเกี่ยวกับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการประชุมสุดยอดที่มีความสำคัญสูงสุดนี้ กรุณาอย่าได้ลังเลที่จะโทรศัพท์หรือเขียนจดหมายถึงผม โดยโลกนี้ โดยเฉพาะเกาหลีเหนือ ได้สูญเสียโอกาสอันยิ่งใหญ่สำหรับการมีสันติภาพที่ยั่งยืน รวมทั้งความร่ำรวย และความมั่งคั่ง ซึ่งโอกาสที่สูญเสียไปนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่น่าเศร้าสำหรับประวัติศาสตร์" ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ตัดสินใจยกเลิกการประชุมสุดยอดกับนายคิม หลังจากที่นางโช โซนฮุย รมช.ต่างประเทศของเกาหลีเหนือ กล่าวในวันนี้ว่า คำกล่าวของนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งได้เปรียบเทียบเกาหลีเหนือว่าเหมือนกับลิเบียนั้น ถือเป็นคำพูดที่โฉดเขลา และโง่เง่า

ก่อนหน้านี้ นายเพนซ์ได้กล่าวว่า เกาหลีเหนือจะพบกับจุดจบเหมือนกับลิเบีย หากไม่ยอมทำข้อตกลงนิวเคลียร์กับสหรัฐ

"ในฐานะที่เป็นบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องราวของสหรัฐ ดิฉันไม่สามารถเก็บความประหลาดใจต่อคำพูดที่โฉดเขลา และโง่เง่าจากปากของคนที่เป็นรองประธานาธิบดีสหรัฐ" นางโชกล่าว

ขณะเดียวกัน นางโชยังกล่าวว่า เกาหลีเหนือจะพิจารณาไม่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในวันที่ 12 มิ.ย.ที่สิงคโปร์ หากสหรัฐมีพฤติกรรมไม่สอดคล้องตามหลักกฎหมาย และมีท่าทีคุกคาม

นางโชกล่าวว่า "หากสหรัฐต่อต้านเจตนารมณ์ที่ดีของเรา รวมทั้งมีการกระทำที่ขัดต่อกฎหมายและมีท่าทีคุกคาม ดิฉันก็จะเสนอให้ผู้นำสูงสุดของเรา นำเรื่องการประชุมสุดยอดเกาหลีเหนือ-สหรัฐมาพิจารณาใหม่"

นอกจากนี้ เกาหลีเหนือได้ทำการขู่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะยกเลิกการประชุมสุดยอดกับปธน.ทรัมป์ ถ้าหากสหรัฐยังคงกดดันแต่เพียงฝ่ายเดียวให้เกาหลีเหนือยกเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์

ขณะเดียวกัน ข่าวที่ว่ารัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาปรับขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ ก็เป็นอีกปัจจัยที่ฉุดตลาดในวันนี้

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้สั่งการให้นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีพาณิชย์ ทำการตรวจสอบว่า รถยนต์และรถบรรทุกที่นำเข้าจากต่างประเทศเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติหรือไม่ โดยความเคลื่อนไหวล่าสุดของปธน.ทรัมป์ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่า รัฐบาลสหรัฐอาจเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ในอัตราสูงถึง 25%

ด้านตัวแทนจากอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ออกมาแสดงความวิตกว่า มาตรการดังกล่าวอาจทำให้รถยนต์และรถบรรทุกในสหรัฐมีราคาแพงขึ้น และจะทำให้ศักยภาพด้านการแข่งขันในอุตสาหกรรมรถยนต์สหรัฐถดถอยลง และชาวอเมริกันจะมีตัวเลือกลดลงตามไปด้วย

ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยในวันนี้นั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 11,000 ราย สู่ระดับ 234,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 220,000 ราย

ตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 168 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2512


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ