ชาวเกาหลีใต้กว่า 200,000 คนได้เข้าชื่อเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนการตัดสินใจที่จะสั่งห้ามการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล
ทั้งนี้ ชาวเกาหลีใต้มากกว่า 212,700 คนได้ลงชื่อในเว็บไซต์ของทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ หลังจากที่เริ่มเปิดให้มีการลงชื่อตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค.ปีที่แล้ว
ตามกฎหมายของเกาหลีใต้ หากประชาชนเข้าชื่อร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากกว่า 200,000 คน รัฐบาลจะต้องรับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวไปพิจารณา
ตลาดสกุลเงินดิจิทัลทรุดหนักตั้งแต่เมื่อวานนี้ จากความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับการที่จีนและเกาหลีใต้อาจมีคำสั่งห้ามการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล ส่งผลให้บิตคอยน์, อีเธอเรียม และริพเพิล ต่างดิ่งลง และทำให้มูลค่าตลาดของสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมดวูบหายไปกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ภายในวันเดียว
ทั้งนี้ ข้อมูลจาก Coinmarketcap.com ระบุว่า มูลค่าตลาดของสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมดเมื่อวานนี้เวลา 07.00 น.ตามเวลาลอนดอน อยู่ที่ 6.538 แสนล้านดอลลาร์ แต่จากการที่นักลงทุนแห่เทขายสกุลเงินดิจิทัล ส่งผลให้มูลค่าตลาดในช่วงเย็นเมื่อวานนี้อยู่ที่ระดับเพียง 4.505 แสนล้านดอลลาร์
นายปาร์ก ซาง-กี รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมเกาหลีใต้ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ทางกระทรวงกำลังร่างกฎหมายเพื่อที่จะยุติการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมดในประเทศ เพื่อลดความร้อนแรงของสกุลเงินเหล่านี้
เขากล่าวว่า กระทรวงกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับกระแสความคลั่งไคล้สกุลเงินดิจิทัล และการยุติการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลคือเป้าหมายหนึ่งที่กระทรวงวางไว้ โดยเขาระบุว่า การซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลในขณะนี้มีความคล้ายคลึงการพนันและการเก็งกำไร
การซื้อขายบิตคอยน์ และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ได้รับความนิยมอย่างมากในเกาหลีใต้ ซึ่งนักลงทุนรายย่อยจำนวนมากได้ลาออกจากงานประจำที่ทำเพื่อมาซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลอย่างเต็มตัว หลังจากที่สกุลเงินเหล่านี้ให้ผลตอบแทนอย่างมากในปีที่แล้ว
เกาหลีใต้ถือเป็นตลาดซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของโลก โดยมีสัดส่วนการซื้อขายบิตคอยน์ 6-12% ของปริมาณการซื้อขายทั่วโลก ขณะที่มีการซื้อขายอีเธอเรียม 14% และริพเพิล 33%