Analysis: นักวิเคราะห์ชี้การแข่งขันที่ดุเดือด ส่งผล "ทอยส์ อาร์ อัส" ระส่ำหนัก

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 20, 2017 11:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ทอยส์ อาร์ อัส (Toys “R" Us ) ผู้จำหน่ายของเล่นชื่อดังของสหรัฐ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอพิทักษ์ทรัพย์จากการล้มละลายตามมาตรา 11 ของกฎหมายล้มละลายสหรัฐเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาตามเวลาสหรัฐ สืบเนื่องจากวิกฤตหนี้สินจำนวนมหาศาล หลังเผชิญการแข่งขันอย่างดุเดือดจากธุรกิจช็อปปิงออนไลน์ ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า ธุรกิจค้าปลีกแบบดั้งเดิมจำเป็นต้องปรับตัวให้ทันกับยุคเศรษฐกิจดิจิทัล

การประกาศล้มละลายของทอยส์ อาร์ อัส ตามกฎหมายล้มลายมาตรา 11 นั้น จะทำให้บริษัทเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการอย่างเป็นระบบ โดยจะมีการปรับโครงสร้างหนี้และจัดตั้งแหล่งเงินทุนที่ยั่งยืนภายใต้การกำกับดูแลของศาล ซึ่งจะช่วยต่อลมหายใจให้กับทอยส์ อาร์ อัสในการดำเนินธุรกิจได้ต่อไป เพื่อนำของเล่นมาสู่อ้อมกอดของเด็กๆอีกครั้ง และเปิดทางให้บริษัทสามารถลงทุนเพื่อสร้างความเจริญเติบโตในระยะยาว

ปัจจุบัน ทอยส์ อาร์ อัส มีหนี้สินประมาณ 5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งการปรับโครงสร้างหนี้จะช่วยให้ทอยส์ อาร์ อัส มีความยืดหยุ่นทางการเงินมากขึ้นในการลงทุนเพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขัน ท่ามกลางความท้าทายที่เพิ่มขึ้นจากภูมิทัศน์การค้าปลีกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ ทอยส์ อาร์ อัส ซึ่งอยู่ในฐานะ "ลูกหนี้ระหว่างการพิทักษ์" ได้รับการพิจารณาความช่วยเหลือด้านเงินกู้จากธนาคารหลายแห่ง ซึ่งรวมถึงธนาคารเจพีมอร์แกน และกลุ่มเจ้าหนี้ของบริษัท รวมวงเงินกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ โดยขณะนี้กำลังอยู่ในกระบวนการอนุมัติ

นักวิเคราะห์มองว่า การยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์จากการล้มลายของทอยส์ อาร์ อัส ครั้งนี้ เป็นอีกตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นถึงการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างธุรกิจค้าปลีกออนไลน์กับออฟไลน์ และทำให้สายตาทั่วโลกหันมาจับจ้องที่อนาคตของอุตสาหกรรมค้าปลีกกันมากขึ้น

นักวิคราะห์กล่าวว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผู้บริโภคนิยมสั่งซื้อสินค้าออนไลน์กันมากขึ้น เนื่องจากมีความสะดวกสบาย โดยให้จัดส่งสินค้าได้ถึงบ้าน ขณะที่ห้างค้าปลีกชั้นนำอย่าง วอลมาร์ท และทาร์เก็ต ต่างก็งัดกลยุทธ์ด้านราคาเพื่อจูงใจผู้บริโภค ส่งผลให้ร้านค้าเหล่านี้สามารถครองส่วนแบ่งในตลาดในสัดส่วนที่มากกว่าทอยส์ อาร์ อัสมาก

เพื่อขับเคี่ยวกับธุรกิจอีคอมเมิร์ชยักษ์ใหญ่เหล่านี้ ร้านค้าปลีกดั้งเดิมอย่างทอยส์ อาร์ อัส จึงจำเป็นต้องลดราคาสินค้าลงเพื่อพยุงยอดขาย ขณะเดียวกันบริษัทก็ยังจำเป็นต้องรักษาฐานความสัมพันธ์กับผู้จำหน่าย เพื่อสร้างหลักประกันเกี่ยวกับสินค้าในสต้อกและการบริการจัดส่งสินค้าให้ตรงเวลา

ปัจจุบัน ทอยส์ อาร์ อัส ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองเวย์น รัฐนิวเจอร์ซีย์ มีร้านค้า "ทอยส์ อาร์ อัส" และ "บาร์บี อาร์ อัส" รวม 1,600 แห่งทั่วโลก ซึ่งร้านค้าเหล่านี้จะยังสามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ เนื่องจากร้านค้านอกเขตแดนสหรัฐและแคนาดานั้น ไม่ได้อยู่ในกระบวนการพิทักษ์ทรัพย์จากการล้มละลาย

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ธุรกิจอีคอมเมิร์ซและร้านค้าปลีกในโลกออฟไลน์มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด โดยต่างฝ่ายต่างงัดกลยุทธ์การตลาดเพื่อช่วงชิงความเป็นผู้นำ ขณะที่ร้านค้าปลีกออฟไลน์หลายแห่งได้ปรับตัวเข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเมื่อเร็วๆนี้ วอลมาร์ทและกูเกิลได้หันมาผนึกกำลังกันเพื่อนำเสนอบริการใหม่ให้แก่ลูกค้า โดยลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าในห้างวอลมาร์ทได้ โดยใช้คำสั่งเสียงผ่านทาง "Google Assistant" ซึ่งถือเป็นย่างก้าวที่สำคัญของวอลมาร์ทในการรักษาความเป็นผู้นำในยุคที่อีคอมเมิร์ซเฟื่องฟู

ขณะที่อเมซอน ได้ประกาศเข้าซื้อกิจการบริษัทโฮลฟู้ดส์ มาร์เก็ต ด้วยวงเงินที่สูงเป็นสถิติถึง 1.37 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา

เอลิซาเบธ เลย์น ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ "Appear Here" กล่าวให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่า "ดิฉันคิดว่าแบรนด์ธุรกิจออนไลน์กำลังรุกเจาะตลาดออฟไลน์ ขณะที่ธุรกิจออฟไลน์ก็พยายามเจาะตลาดออนไลน์เช่นกัน ดังนั้นเทรนด์ในอนาคตสำหรับธุรกิจค้าปลีกจึงไม่ใช่แค่ออนไลน์หรือออฟไลน์เพียงอย่างเดียว แต่เป็นการผสมผสานระหว่างออนไลน์และออฟไลน์"

บทวิเคราะห์โดย ซุน โอวเหมิง และ หวัง ไน่สุ่ย

สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ