Spotlight: "ทรัมป์" ดำรงตำแหน่งวันแรก ออกโรงประณามสื่อ-เมินปชช.ประท้วง

ข่าวเศรษฐกิจ Monday January 23, 2017 09:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประเดิมวันแรกของการดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศด้วยการออกมาปฏิเสธข่าวความบาดหมางกับสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ (CIA) พร้อมกับประณามสื่อที่รายงานจำนวนผู้เข้าร่วมพิธีสาบานตนน้อยกว่าความเป็นจริง นอกจากนี้ ทรัมป์ยังไม่ให้ความสนใจต่อเหตุการณ์ที่ประชาชนได้ออกมาเดินขบวนประท้วง

สถานการณ์ความขัดแย้งเหล่านี้ได้เข้ามาบดบังความสำคัญของมาตรการทางการทูต 3 ประการที่ประธานาธิบดีคนใหม่ได้ประกาศไว้ ได้แก่ ประการแรกคือกำจัด "กลุ่มก่อการร้ายอิสลามหัวรุนแรง" ให้หมดไป ประการที่สอง ให้การต้อนรับนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ในฐานะผู้นำประเทศคนแรกที่จะเดินทางเยือนสหรัฐวันพฤหัสบดีนี้ และประการที่สาม หารือกับประธานาธิบดีเอนริเก เปนญา นิเอโต ของเม็กซิโก วันที่ 31 ม.ค.

ประชาชนต่างก็ให้ความสนใจต่อความเคลื่อนไหวที่ปธน.ทรัมป์ได้ออกมาวิจารณ์สื่อสหรัฐ หลังจากที่สื่อได้รายงานจำนวนผู้เข้าร่วมพิธีสาบานตนน้อยกว่าความเป็นจริง รวมถึงความบาดหมางกับสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ

ปธน.ทรัมป์ ได้แถลง ณ สำนักงานใหญ่ของ CIA ว่า สื่อสหรัฐเป็น "บุคคลที่ไม่น่าไว้วางใจมากที่สุด" หลังมีรายงานความบาดหมางกับสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ แม้ว่าก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์ ได้ออกมาประณาม CIA ที่ได้ปล่อยเอกสารซึ่งระบุว่ารัสเซียอาจมี "ข้อมูลโจมตี" นายทรัมป์

นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังได้ประณามสื่อ เนื่องจากสื่อได้รายงานจำนวนผู้เข้าร่วมพิธีสาบานตนน้อยกว่าความเป็นจริง โดยก่อนหน้านี้มีรายงานว่า จำนวนผู้ที่เข้าร่วมพิธีสาบานตนของปธน.ทรัมป์นั้นมีอยู่ประมาณหนึ่งในสามของจำนวนผู้ที่เข้าร่วมพิธีของนายโอบามาเมื่อปี 2552

ปธน.ทรัมป์ กล่าวกับเจ้าหน้าที่ CIA ว่า "เช้านี้ผมตื่นขึ้นมาเปิดทีวีดู มีช่องหนึ่งฉายภาพสนามว่างๆ ผมบอกไปว่ารอสักพักหนึ่ง ผมขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ ผมมองออกไป ทั้งสนามดูเหมือนมีคนอยู่เป็นล้าน สักล้านห้าแสนได้เลย ทว่าสื่อกลับฉายภาพพื้นที่ที่ไม่มีใครยืนอยู่ตรงนั้น"

"เราจึงจับได้ และจับได้คาหนังคาเขา ผมคิดว่าพวกเขาจะต้องชดใช้อย่างสาสม" ทรัมป์กล่าว

จากนั้นไม่กี่ชั่วโมง นายฌอน สไปเซอร์ โฆษกทำเนียบขาว ได้ออกแถลงข่าวเป็นครั้งแรก เพื่อวิจารณ์สื่อสหรัฐที่ได้รายงานข่าวเรื่องจำนวนผู้เข้าร่วมพิธีสาบานตน โดยได้ประณามว่ารายงานตัวเลขดังกล่าวเป็นเรื่องที่ "น่าอับอายและไม่จริง"

นายสไปเซอร์ กล่าวว่า "พิธีสาบานตนครั้งนี้มีผู้เข้าชมทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งด้วยตนเองและจากการออกอากาศทั่วโลก" แม้ว่าภาพและคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ออกมานั้นแสดงให้เห็นว่ามีผู้เข้าร่วมน้อยว่าสมัยนายโอบามาเมื่อปี 2552

นายสไปเซอร์ กล่าวว่า ภาพเปรียบเทียบจำนวนผู้เข้าร่วมพิธีสาบานตนที่ปรากฎบนโซเชียลมีเดียนั้น "ถูกจงใจทำให้ดูเป็นเช่นนั้นเพื่อดิสเครดิต" ปธน.คนใหม่ โดยโฆษกทำเนียบขาวไม่ได้เปิดรับคำถามจากสื่อมวลชน

อย่างไรก็ตาม ทั้งปธน.ทรัมป์และโฆษกประจำตัว กลับไม่ได้ให้ความสนใจต่อข่าวการเดินประท้วงต่อด้านปธน.ทรัมป์ที่ขยายวงกว้างไปทั่วสหรัฐ และบางพื้นที่ทั่วโลกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ มีประชาชนเดินขบวนประท้วงเป็นจำนวนมากทั้งที่กรุงวอชิงตัน บอสตัน นิวยอร์ก ชิคาโก และลอสแองเจลิส เพื่อคัดค้านนโยบายของปธน.ทรัมป์ รวมถึงทัศนคติดูหมิ่นผู้หญิง และยังมีการประท้วงในลักษณะเดียวกันนี้ที่กรุงปารีส ลอนดอน ซิดนีย์ และเมืองใหญ่ๆตามชาติตะวันตกด้วย

หนังสือพิมพ์ The Hill รายงานว่า มีชาวอเมริกันเดินขบวนประท้วงกว่า 2.5 ล้านคน โดยอ้างตัวเลขทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการจากเมืองใหญ่ๆของสหรัฐ สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ