สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกปรับฐานลง อันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับกรอบเวลาในการบังคับใช้ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 4.70 ดอลลาร์ หรือ 0.37% ปิดที่ระดับ 1278.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 17.6 เซนต์ หรือ 1.04% ปิดที่ 17.047 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 3.50 ดอลลาร์ หรือ 0.38% ปิดที่ 935.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 3.40 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 989.70 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกปรับฐานลง อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการผลักดันกฎหมายปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากสมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาเสนอให้มีการชะลอการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 35% สู่ระดับ 20% ออกไปอีก 1 ปี จนถึงปี 2562 นอกจากนี้ ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับของวุฒิสภายังมีเนื้อหาแตกต่างจากฉบับของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งอาจทำให้ร่างกฎหมายฉบับนี้มีความซับซ้อนมากขึ้น
ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรมีกำหนดลงมติต่อร่างกฎหมายดังกล่าวในสัปดาห์นี้
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค.ที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค.ที่จะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมเดือนธ.ค.