In Focusจับตาวงการไอทีปี 2557 เมื่อเทคโนโลยีติดตามคุณไปได้ทุกที่

ข่าวเทคโนโลยี Wednesday January 15, 2014 16:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ในปี 2556 ที่ผ่านมา ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่ตลาดเทคโนโลยีร้อนระอุ เกิดการแข่งขันในตลาดอย่างคึกคัก เจ้าตลาดพากันผุดสินค้าซึ่งมีทั้งประสบความสำเร็จ และสามารถโกยเงินได้เป็นกอบเป็นกำ อาทิ สมาร์ทโฟเรือธงไอโฟนของแอปเปิ้ล และสมาร์ทโฟนรุ่น Galaxy S5 และ Galaxy Note 3 จากซัมซุง ที่รับทรัพย์อู้ฟู่เหมือนทุกปีที่ผ่านมา และก็มีที่คว้าน้ำเหลวบ้าง อย่างเช่น นาฬิกาข้อมูล Galaxy Gear ของซัมซุงที่ทำยอดขายได้ต่ำกว่าเป้า อย่างไรก็ดี วงการไอทีไม่เคยนิ่งอยู่กับที่ และเริ่มเห็นความเคลื่อนไหวใหม่ๆตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่า จะออกมาให้เห็นเป็นชิ้นเป็นอันในอนาคตแน่นอน แต่ทิศทางในปีนี้อาจจะมุ่งไปที่ปัจจัยจำเป็นอื่นๆนอกเหนือจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ เครื่องใช้ภายในบ้าน หรือแม้กระทั่งเงิน? เริ่มสงสัยแล้วใช่ไหมคะว่าสิ่งเหล่านี้มีความสัมพันธ์กับเทคโนโลยีได้อย่างไร ติดตามตามกันได้ใน In Focus สัปดาห์นี้ได้เลยค่ะ

*Smart Car รถยนต์ก็รันระบบคอมพิวเตอร์ได้

แนวคิดในการนำระบบปฏิบัติการมาใส่ในรถยนต์อาจกลายเป็นเรื่องจริงในปีนี้ เมื่อกูเกิ้ล บริษัทไอทีแห่งซิลิคอนวัลเลย์ ซึ่งเป็นที่รู้จักทั่วโลกและเป็นผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์สำหรับสมาร์ทโฟนต่างๆ ได้จับมือแบรนด์รถยนต์เจ้าดังของโลกไม่ว่าจะเป็น ออดี้, เจนเนอรัล มอเตอร์ส, ฮอนด้า มอเตอร์, ฮุนได มอเตอร์ รวมถึง NVIDIA ผู้ผลิตการ์ดจอรายใหญ่ของโลก ร่วมกันก่อตั้ง Open Automotive Alliance (OAA) ซึ่งเป็นการรวมตัวกันเพื่อผลักดันระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ในรถยนต์ และเพื่อเร่งให้เกิดการเปิดกว้างและการปรับแต่งต่างๆในรถยนต์ได้ตามความต้องการ โดยกลุ่ม OAA คาดหวังว่า จะสามารถจะทำให้เทคโนโลยีในรถยนต์มีความปลอดภัย และเข้ากับชีวิตทุกคนได้อย่างกลมกลืนมากขึ้น

ขณะเดียวกันด้วยแพลตฟอร์มที่เปิดกว้างและเป็นที่คุ้นเคยอย่างแอนดรอยด์ก็จะช่วยให้ผู้ผลิตรถยนต์สามารถนำเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยไปสู่ผู้ขับขี่ได้ง่ายดายขึ้น และเป็นการเปิดโอกาสของนักพัฒนาให้สามารถส่งมอบประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์แก่ทั้งคนขับและผู้โดยสารในแนวทางที่ปลอดภัยและยืดหยุ่นได้

อย่างไรก็ดีแม้ว่า ทางกูเกิ้ลและพันธมิตรผู้ผลิตรถยนต์จะยังไม่ได้เผยโฉมรถยนต์ที่รันระบบแอนดรอยด์ แต่กูเกิ้ลก็แย้มออกมาแล้วว่า เราน่าจะได้เห็นรถยนต์ที่รันแอนดรอยด์คันแรกๆ ภายในสิ้นปีนี้

แต่สำหรับใครที่ทนไม่ไหว อยากครอบครองรถยนต์สั่งงานได้ด้วยคอมพิวเตอร์บ้างสักคันและมีเงินหนาหน่อย คุณอาจจะไม่ต้องรอนาน เพราะทาง QMX บริษัทลูกของแบลคเบอร์รี่ได้เปิดตัวรถยนต์ต้นแบบ QNX Car ที่งาน CES 2014 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่จัดขึ้นทุกปีจัดขึ้นที่ลาสเวกัส โดยเป็นรถยนต์ที่ผนวกแพลตฟอร์มที่สามารถแจ้งเตือน รับคำสั่งด้วยเสียง และเป็นระบบความบันเทิงภายในรถ โดยใช้รถยนต์ Mercedes-Benz CLA45 AMG เป็นต้นแบบ สำหรับ QNX Car นั้น มีหน้าปัดรถที่ไม่เหมือนรถยนต์ทั่วไป เนื่องจากสามารถแจ้งเตือนเมื่อมีสายโทรศัพท์เข้า และมีการแจ้งเตือนเมื่อมีข้อความเข้ามาด้วยเช่นกัน ซึ่งหากต้องการฟังว่าเป็นข้อความอะไร ก็สามารถกดปุ่มที่พวงมาลัยเพื่อฟัง ดูภาพเคลื่อนไหวจากกล้องหน้าและหลังรถ และยังแสดงผลนำทางแบบ Turn-by-turn อีกด้วย

ขณะที่ในส่วนโมดูลหน้าจอข้างๆกันนั้น สามารถแสดงการนำทางที่สามารถเลือกเส้นทางที่ดีที่สุดได้ และยังรองรับการทำงานของแอพพลิเคชั่นของระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์และ HTML5 อีกทั้งสามารถสั่งงานด้วยเสียงได้แม้ว่าจะกำลังเปิดเพลงฟังอยู่ และสามารถตรวจสอบความเสียหายของชิ้นส่วนเครื่องยนต์ผ่านหน้าจอดังกล่าวได้ ทาง QNX ยังเปิดเผยว่าภาพหน้าจออุปกรณ์ iOS ที่แสดงหน้าการตรวจสอบความเสียหายดังกล่าวเช่นเดียวกัน โดยQNX ระบุว่า เป็นการทำงานผ่านระบบคลาวด์ เราน่าจะได้เห็น QNX Car เวอร์ชั่นพร้อมจำหน่ายในเร็วๆนี้

  • Smart Home เมื่อเราสอดส่องอุปกรณ์ในบ้านได้แม้อยู่ไกลกันข้ามโลก

และที่งาน CES 2014 เช่นกัน ซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มบริการ Samsung Smart Home เพื่อให้เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านตั้งแต่สมาร์ททีวี ตู้เย็น ยันเครื่องซักผ้า และสมาร์ทโฟน รวมถึงนาฬิกา Galaxy Gear สามารถเชื่อมต่อถึงกันได้และสามารถควบคุมโดยการใช้แพลตฟอร์มเดียวกัน โดยซัมซุงระบุว่าเตรียมนำแพลตฟอร์มนี้วางจำหน่ายภายในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ และจะร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อให้บริการ Smart Home ตลอดจนขยายแพลตฟอร์มนี้ให้สามารถใช้งานได้กับบริษัทแนวร่วม ซึ่งจะเป็นการสร้างพื้นฐานให้กับภาวะแวดล้อมที่อุปกรณ์ภายในบ้านสามารถเชื่อมถึงกันได้ ขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว

ซัมซุงได้ออกแบบการทำงานของ Smart Home ออกเป็น 3 ฟังก์ชั่น ได้แก่ ‘device control’ เปิดทางให้เราใช้สมาร์ทโฟนซีรีส์ Galaxy นาฬิกา Galaxy Gear รวมถึงสมาร์ททีวี ในการควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ในบ้านได้แม้ว่าตัวผู้ใช้งานจะอยู่นอกบ้าน และสามารถสั่งการด้วยเสียงผ่าน Galaxy Gear ว่า ‘going out’ ให้ปิดไฟและอุปกรณ์ที่กำหนดไว้ และเมื่อสั่งการผ่านรีโมทของ Smart TV ว่า ‘good night’ โทรทัศน์ก็จะปิดเองขณะที่แสงไฟก็จะค่อยๆหรี่ลงจนดับไป

ต่อมาคือฟังก์ชั่น “Home View" ที่ทำให้เราสามารถดูภาพความเคลื่อนไหวภายในบ้านผ่านสมาร์ทโฟนได้แบบเรียลไทม์ โดยภาพจะมาจากกล้องที่ติดตั้งมากับเครื่องใช้ในบ้าน ส่วนฟีเจอร์สุดท้ายคือ “smart customer service" ออกแบบมาเพื่อแจ้งเตือนเมื่อเครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหายหรือมีชิ้นส่วนที่ต้องเปลี่ยน และช่วยประสานงานไปยังหน่วยบริการหลังการขายอีกด้วย

ขณะเดียวกัน ซัมซุงยังได้พัฒนา Smart Home software protocol (SHP) เพื่อการนี้โดยเฉพาะเพื่อให้อุปกรณ์ในแพลตฟอร์ม Samsung Smart Home ในบ้านทั้งหมดสามารถเชื่อมโยงถึงกันได้

Smart (Bit)Coin เมื่อเราใช้เงินได้โดยไม่ต้องควักกระเป๋า

การเงินอิเล็กทรอนิกส์ถือเป็นอีกกระแสไอทีหนึ่งที่น่าจะจับตามอง และโดนเด่นที่สุดในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา อีกทั้งยังมีแนวโน้มไปถึงอนาคตด้วยนั่นก็คือ BitCoin สกุลเงินดิจิตอลซึ่งแลกเปลี่ยนและควบคุมโดยเครือข่ายคอมพิวเตอร์ และไม่มีธนาคารเป็นตัวกลางเหมือนกันเงินรูปแบบอื่น เนื่องจากไม่มีตัวกลาง ข้อมูลการโอนและการฝากระหว่างสองฝั่งจะประมวลผลออกมาได้ช้า จึงมีกลุ่มที่ผันตัวอุทิศให้กับคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงเปิดเซิร์ฟเวอร์ เพื่อให้เครือข่าย BitCoin สามารถทำงานได้ตลอดเวลา เพื่อให้การโอนและการฝากสามารถทำได้อย่างรวดเร็วขึ้น โดยคนกลุ่มนี้จะได้ BitCoin เป็นค่าตอบแทน

กระบวนการในการได้ BitCoin นั้น ก็ไม่ใช่เรื่องยากเพียงแค่ต้องติดต่อบริษัทตัวกลางเพื่อใช้เงินสกุลใดๆก็ได้ในการซื้อ BitCoin ในระบบ อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางของแต่ละประเทศก็มีข้อกำหนดเกี่ยวกับสกุลเงินเสมือนจริงดังกล่าวนี้ในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป โดยธนาคารแห่งประเทศไทยสั่งห้ามใช้ระบบกิจการแลกเปลี่ยน BitCoin ในประเทศ เนื่องจากกังวลว่าจะมีการนำไปใช้เพื่อเก็งกำไรค่าเงินบาท ขณะที่ธนาคารกลางจีนก็ห้ามไม่ให้สถาบันทางการเงินให้บริการ BitCoin และไม่ให้บริษัทตัวกลางของ BitCoin 10 แห่ง จ่ายและรับ BitCoin ส่วนธนาคารกลางสิงคโปร์ประกาศไม่แทรกแซง BitCoin และสามารถนำมาใช้ในการใช้จ่ายได้ ซึ่งแน่นอนว่าข่าวเหล่านี้ย่อมส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของ BitCoin ช่วงที่จีนประกาศห้ามทำธุรกรรมแลกเปลี่ยน BitCoin เมื่อต้นเดือนธันวาคมปีที่แล้วนั้น ราคา BitCoin ร่วงกว่า 300 ดอลลาร์ แตะที่ 751.60 ดอลลาร์ และร่วงลงมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ซิงก้า (Zynga) บริษัทเกมออนไลน์มือถือจากสหรัฐ เจ้าของเกมดังอย่าง “Farmville" ได้กลายเป็นพระเอกขี่ม้าขาว หลังมีข่าวว่า บริษัทนำร่องได้ทดลองนำ BitCoin มาใช้ซื้อของในเกมได้ ซึ่งทำให้อัตรา BitCoin พุ่งทะลุ 1,000 ดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาและทำให้ BitCoin กลับมาเป็นที่จับตามองอีกครั้ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ