นางแมร์เคลยืนยันกับสื่อในวงกว้างว่า เธอได้แต่งตั้งนางอัวซูลา ฟอน แดร์ ไลเยนเป็นรัฐมนตรีกลาโหมหญิงคนแรกของประเทศ ขณะที่นายโทมัส เดอ เมซิแอร์ รมว.กลาโหมจะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย
ส่วนนายวอล์ฟกัง ชอยเบลอ จากพรรคคริสเตียน เดโมเครติค ยูเนียน (CDU) ซึ่งร่วมมือกับนางแมร์เคลต่อสู้กับวิกฤติหนี้ยูโรโซน จะยังคงเป็นรัฐมนตรีคลังเช่นเดิม
นางแมร์เคลได้เลือกตัวแทนจากพรรค CDU คนอื่นอีกคือ นายแฮร์มันน์ เกรอเฮอ ซึ่งจะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีสาธารณสุข นางโยฮันนา วังคา ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ และนายเพเทอร์ อัลท์ไมเออร์ ดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะทำงาน
พรรคคริสเตียน โซเชียล ยูเนียน (CSU) ซึ่งเป็นพรรคแนวร่วมที่มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับพรรค CDU นั้น ได้ประกาศสมาชิกคณะรัฐบาลผสมภายใต้การนำของนางแมร์เคลเช่นกันในวันอาทิตย์ ผู้ร่วมเจรจาในการจัดตั้งรัฐบาลผสมช่วงก่อนหน้านี้กล่าวว่า พรรค CDU และพรรค SPD จะได้ตำแหน่งรัฐมนตรีพรรคละ 6 ตำแหน่ง และพรรค CSU จะได้ 3 ตำแหน่ง
รัฐมนตรี 3 ตำแหน่งของพรรค CSU ได้แก่รัฐมนตรีเกษตร คมนาคม และด้านการพัฒนาและความร่วมมือทางเศรษฐกิจ คือนายเพเทอร์ ฮาน-ฟริดริช นายอเล็กซานเดอร์ โดเบรนดท์ นายการ์ด มุลเลอร์ตามลำดับ
ในช่วงก่อนหน้าในวันนั้น พรรค SPD ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับสมาชิกคณะรัฐมนตรีแล้ว
นายซิกม่า กาเบียล หัวหน้าพรรค SPD กล่าวในการแถลงข่าวที่เบอร์ลินว่า พรรคจะได้ตำแหน่งรัฐมนตรี 6 ตำแหน่งในด้านเศรษฐกิจและพลังงาน กิจการต่างประเทศ แรงงาน สิ่งแวดล้อม ยุติธรรมและครอบครัว
นายกาเบียลจะเป็นรัฐมนตรีคนใหม่ของกระทรวงเศรษฐกิจและพลังงาน และรับผิดชอบเรื่องแผนการปฏิรูปพลังงาน จากพลังงานไฟฟ้านิวเคลียร์มาเป็นพลังสีเขียว
นายแฟรงก์-วอลเทอร์ สไตน์ไมเออร์ กลับมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ โดยเขาทำหน้าที่นี้ตั้งแต่ปี 2548-2552 ภายใต้การนำของนางแมร์เคล
นายกาเบียลกล่าวว่า พรรค SPD ได้ตำแหน่งรัฐมนตรีแรงงาน สิ่งแวดล้อม ยุติกรรม ครอบครัว โดยนายอันเดรีย นาห์เลส นางบาร์บาร่า เฮนดริคส์ นายไฮโก มาส นางมานูเอลา ชเวซิจจะรับผิดชอบกระทรวงดังกล่าวตามลำดับ
ผู้นำพรรคต่างๆ จะลงนามข้อตกลงรัฐบาลผสมอย่างเป็นทางการในวันนี้ นางแมร์เคลจะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้งในการลงคะแนนเสียงของสภาล่างในวันอังคาร และคณะรัฐบาลผสมชุดใหม่จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในอีก 4 วันถัดไป
การจัดตั้งรัฐบาลผสมชุดใหม่ทำให้ความไม่แน่นอนทางการเมืองในระยะเวลานานกว่า 2 เดือนสิ้นสุดลง หลังการเลือกตั้งในวันที่ 22 ก.ย. เมื่อพรรค CDU ของนางแมร์เคลและพรรค CSU ชนะการลงคะแนน ด้วยคะแนนเสียง 41.5% ขณะที่พรรค SPD ได้คะแนนไป 25.7%
เนื่องจากไม่ได้ที่นั่งข้างมากในสภา พรรค CDU/CSU จึงต้องจัดตั้งรัฐบาลผสมกับพรรค SPD ในสมัยแรกของนางแมร์เคลเมื่อปี 2548-2552 โดยรัฐบาลผสมนี้ได้รับการยอมรับจากชาวเยอรมัน ตามผลสำรวจที่ออกอากาศโดย ZDF เมื่อวันศุกร์ ซึ่งบ่งชี้ว่า 49% ของชาวเยอรมันสนับสนุนรัฐบาลผสม ขณะที่ 33% คัดค้าน
การจัดตั้งรัฐบาลผสมกลายเป็นความจริงเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากสมาชิกส่วนใหญ่ของพรรค SPD กลับมาสนับสนุนข้อตกลงเรื่องรัฐบาลผสมในการผูกขาดการลงคะแนนในพรรค
อย่างไรก็ดี สมาชิกพรรค SPD บางส่วนยังคงมีความสงสัยในการเป็นพันธมิตรกับนางแมร์เคลอีกครั้งในฐานะพรรคร่วมรายย่อย โดยพรรคพ่ายแพ้การเลือกตั้งปี 2552 จากการเป็นพรรคร่วมในสมัยแรกของนางแมร์เคล