ข้อความโต้เหตุรุนแรงในชาร์ลอตส์วิลล์ของ "โอบามา" ทำสถิติยอด "ไลค์" สูงสุดตลอดกาลของทวิตเตอร์

ข่าวการเมือง Wednesday August 16, 2017 15:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐได้ทวีตข้อความพร้อมรูปภาพเพื่อตอบโต้เหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นในเมืองชาร์ลอตส์วิลล์ รัฐเวอร์จิเนียเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยข้อความในทวิตเตอร์ดังกล่าวมีจำนวนผู้กด "ไลค์" ขณะนี้ทะลุ 2.8 ล้านครั้ง ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดตลอดกาลของทวิตเตอร์

โอบามาทวีตข้อความโดยอ้างคำกล่าวของเนลสัน แมนเดลา อดีตประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ ว่า "ไม่มีใครที่ถือกำเนิดขึ้นโดยการจงเกลียดจงชังผู้อื่นเพียงเพราะสีผิวของเขา ปูมหลังของเขา หรือศาสนาที่เขานับถือ ผู้คนต้องเรียนรู้ที่จะเกลียด แต่หากใครสามารถเรียนรู้ที่จะเกลียดได้ พวกเขาก็สามารถถูกสอนให้รักได้เช่นกัน เพราะความรักเป็นธรรมชาติต่อหัวใจมนุษย์มากกว่าสิ่งตรงข้าม"

ทั้งนี้ เจ้าของสถิติยอดไลค์สูงสุดในโลกทวิตเตอร์ก่อนหน้านี้ คือทวีตของอาเรียนา แกรนเด นักร้องเพลงป๊อปชื่อดัง ซึ่งระบุข้อความว่า เธอรู้สึก "ใจสลาย" หลังเกิดเหตุระเบิดใกล้สถานที่จัดคอนเสิร์ตของเธอในเมืองแมนเชสเตอร์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 22 ราย โดยข้อความดังกล่าวมีผู้กดไลค์ประมาณ 2.7 ล้านครั้ง

ส่วนสถิติยอดไลค์สูงสุดลำดับที่ 3 เป็นทวีตของเอเลน ดีเจนเนอเรส ซึ่งโพสต์ภาพเซลฟีกลุ่มดาราฮอลลีวูดในงานประกาศรางวัลออสการ์ปี 2014

สำหรับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมักใช้ทวิตเตอร์เป็นช่องทางในการสะท้อนมุมมองและนโยบายในการบริหารประเทศของเขานั้น ได้รีทวีตสองข้อความที่จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง โดยหนึ่งในนั้นคือรูปภาพการ์ตูนล้อเลียนขณะรถไฟกำลังพุ่งชนตัวการ์ตูนตัวหนึ่งที่แปะตัวอักษรว่า CNN ซึ่งเป็นชื่อย่อเครือข่ายสถานีข่าวชื่อดังของสหรัฐ และอีกข้อความคือทวีตที่ระบุว่าประธานาธิบดีทรัมป์เป็นผู้นิยมลัทธิฟาสซิสต์ อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ได้ลบสองข้อความที่รีทวิตในเวลาต่อมา

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงภาพรวมในการจัดการกับเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นในชาร์ลอตส์วิลล์ โดยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้เลี่ยงการประณามแบบเจาะจงชื่อกลุ่มชาตินิยมผิวขาวและนีโอนาซี แต่กลับวิจารณ์แบบเหมารวมว่าเป็นความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากบุคคลหลายฝ่าย อย่างไรก็ตาม เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้ปรับเปลี่ยนท่าทีโดยประณามเจาะจงชื่อกลุ่มชาตินิยมผิวขาวสุดโต่ง แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขภาพลักษณ์ของทรัมป์ที่ถูกมองว่ามีจุดยืนเอนเอียงไปทางกลุ่มชาตินิยมฝ่ายขวา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ