ถ้อยแถลงนายกรัฐมนตรีในการประชุมว่าด้วยเส้นทางสู่หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า

ข่าวต่างประเทศ Wednesday September 30, 2015 14:02 —กระทรวงการต่างประเทศ

ถ้อยแถลงนายกรัฐมนตรีในการประชุมว่าด้วยเส้นทางสู่หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า: การส่งเสริมความเท่าเทียมในบริบทสุขภาพโลกและความมั่นคงของมนุษย์ในช่วงการพัฒนาภายหลังปี ค.ศ. ๒๐๑๕

ถ้อยแถลงนายกรัฐมนตรี

สำหรับการประชุมว่าด้วยเส้นทางสู่หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า:

การส่งเสริมความเท่าเทียมในบริบทสุขภาพโลกและความมั่นคงของมนุษย์ในช่วงการพัฒนาภายหลังปี ค.ศ. ๒๐๑๕

ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก

วันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๕๘

ท่านประธาน

๑. ประเทศไทยให้ความสำคัญกับสุขภาพที่ดีของประชาชน สอดคล้องตามเป้าหมายที่ ๓ ของเป้าหมายเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ประชาชนที่มีสุขภาพดีจะเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ ผมเชื่ออย่างยิ่งว่า การลงทุนในสุขภาพคือการลงทุนเพื่อผลประโยชน์แห่งชาติ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน และเพื่อความมั่นคงของสังคม

๒. รัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญกับประเด็นสุขภาพและความมั่นคงของมนุษย์มาอย่างต่อเนื่อง เราให้ความสำคัญกับการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการด้านสุขภาพได้ตามความจำเป็น และไม่ล้มละลายจากการเจ็บป่วยและค่ารักษาพยาบาลที่มีราคาแพง ด้วยบริการที่มีคุณภาพ มาตรฐาน โดยคำนึงถึงเกียรติและศักดิ์ศรีของทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน

๓. ประเทศไทยได้บรรลุหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ตั้งแต่ปี ค.ศ. ๒๐๐๒ ด้วยความมุ่งมั่นของรัฐบาลตั้งแต่ ปี ค.ศ. ๑๙๗๐ เป็นต้นมา ที่ขยายการลงทุนในโครงสร้างระบบบริการสุขภาพในทุกระดับ ทำให้มีการขยายความครอบคลุมของบริการสุขภาพ มีการกระจายบุคลากรสาธารณสุขตั้งแต่แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกรและพยาบาลครอบคลุมทุกพื้นที่ ตลอดจนขยายการครอบคลุมบริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้ทั่วถึง และลดความไม่เท่าเทียมกันระหว่างเมืองและชนบท ทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้มากขึ้น สามารถลดอัตราการตายของแม่และ เด็ก จากอัตราตายของทารก ๗๒ ต่อการเกิดมีชีพ ๑,๐๐๐ คน ในปี ค.ศ. ๑๙๗๐ ลดลงเหลือเพียง ๑๑ ต่อเด็กเกิดมีชีพ ๑,๐๐๐ คน ในปี ค.ศ. ๒๐๑๔ นอกจากจะทำให้สุขภาพประชาชนดีขึ้นแล้ว ยังสามารถลดปัญหาความยากจนได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยพบว่า ตลอด ๑๒ ปีที่ผ่านมาของการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า สามารถป้องกันครัวเรือนไม่ให้เกิดความยากจนเนื่องจากค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพมากกว่า ๑ แสนครัวเรือน

๔. รัฐบาลไทยมีนโยบายยกระดับคุณภาพบริการด้านสาธารณสุข และสุขภาพของประชาชน โดยวางรากฐานให้ระบบหลักประกันสุขภาพครอบคลุมประชากรในทุกภาคส่วนอย่างมีคุณภาพโดยไม่มีความเหลื่อมล้ำของคุณภาพบริการในแต่ละระบบประกันสุขภาพ เน้นการป้องกันโรคมากกว่ารอให้ป่วยแล้วจึงมารักษา สนับสนุนความร่วมมือระหว่างรัฐและเอกชนในการพัฒนาระบบบริการทางการแพทย์และสาธารณสุข นอกจากนี้ รัฐบาลยังให้การคุ้มครองทางสังคมและกฎหมายกับแรงงานต่างด้าวด้วยเช่นกัน ในช่วงระหว่างเดือนมิถุนายน-ตุลาคมของปีที่แล้ว ประเทศไทยได้เปิดลงทะเบียนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเพื่อเข้าสู่ระบบการจ้างงาน มีแรงงาน ต่างด้าวกว่า ๑.๖ ล้านคนมาลงทะเบียน ซึ่งมาตรการนี้ช่วยป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชนและป้องกันแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ และทำให้แรงงานเหล่านี้สามารถเข้าถึงบริการสุขภาพที่จำเป็นซึ่งรัฐบาลจัดบริการให้ได้

๕. ประเทศไทยเชื่อในความเป็นหุ้นส่วนระหว่างประเทศ เราจะอาศัยจุดแข็งของระบบสุขภาพไทย สนับสนุนการเป็นศูนย์กลางการผลิตและพัฒนาบุคลากรสุขภาพ รวมทั้งรองรับการเป็นประชาคมอาเซียน นอกจากนี้ ไทยร่วมกับกลุ่มประเทศอาเซียน กับจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี ได้ร่วมกันจัดตั้ง เครือข่ายความร่วมมืออาเซียนบวกสามด้านหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (ASEAN Plus three UHC Network) โดยประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ในภูมิภาคในเรื่องการจัดบริการสาธารณสุขและการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า โดยร่วมมือกับรัฐบาลญี่ปุ่นในโครงการด้านวิชาการไทย-ญี่ปุ่น เพื่อขับเคลื่อนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า และสนับสนุนเครือข่ายสุขภาพโลก

๖. ท้ายที่สุดนี้ ประเทศไทยพร้อมที่จะร่วมกับทุกประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศต่าง ๆ ในการร่วมมือกันสนับสนุนเพื่อพัฒนาให้บรรลุหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า อันเป้าหมายหนึ่งที่จะนำไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และอยู่ร่วมกันอย่างผาสุก มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ขอบคุณครับ

--กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ