กระทรวงพลังงานมอบหลอดผอมเบอร์ 5 ให้ จ.ร้อยเอ็ด ช่วยลดโลกร้อน ประหยัดค่าไฟฟ้า 200,000 บาท/ปี

ข่าวทั่วไป Thursday September 8, 2011 09:33 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 ก.ย.--ก.พลังงาน นายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธานพิธีมอบหลอดผอมเบอร์ 5 ให้กับจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นายสมสักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นผู้รับมอบ นายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลัง เป็นประธานในพิธีมอบหลอดผอมเบอร์ 5 ให้กับจังหวัดร้อยเอ็ด ว่า “กระทรวงพลังงานปรับเปลี่ยนหลอดไฟของศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ดเป็นหลอดผอมเบอร์ 5 จำนวน 2,415 หลอด ซึ่งจะช่วยลดงบประมาณในการจ่ายค่าไฟฟ้าได้ถึง 200,000 บาทต่อปี และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้ประมาณ 37 ตันต่อปี อันจะเป็นตัวอย่างอาคารภาครัฐที่มีการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน และลดภาวะโลกร้อน โอกาสนี้ จึงขอความร่วมมือร่วมใจจากข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ดทุกท่าน ได้ดำเนินการอนุรักษ์พลังงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่อาคารอื่นๆ และประชาชนทั่วไปด้วย” นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า “ปัจจุบันการใช้พลังงาน ในอาคารศาลากลางจังหวัดฯ ส่วนใหญ่ใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก โดยในปี 2552 มีการใช้พลังงานไฟฟ้าประมาณ 790,000 หน่วยต่อปี คิดเป็นค่าใช้จ่ายประมาณ 2,600,000 บาทต่อปี การดำเนินการเรื่องการประหยัดพลังงานที่ผ่านมาจังหวัดฯ ได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานของกระทรวงพลังงาน ได้แก่ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) และสำนักงานพลังงานจังหวัดร้อยเอ็ด ในการเผยแพร่ความรู้ในหลายๆ เรื่อง เช่น การใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด การจัดทำแผนพลังงานชุมชน เป็นต้น และยังได้รับความอนุเคราะห์จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เข้ามาปรับเปลี่ยนหลอดผอมแบบเดิมเป็นหลอดผอมเบอร์ 5 ซึ่งช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตการทำงานของข้าราชการ และประชาชนผู้มาติดต่อใช้บริการให้ดียิ่งขึ้น” กระทรวงพลังงานจะปรับเปลี่ยนอุปกรณ์หลอดฟลูออเรสเซนต์เดิม เป็นหลอดผอมเบอร์ 5 ในอาคารภาครัฐ รวม 680 แห่ง นอกจากนี้ ยังจัดทำ “โครงการส่งเสริมและกำกับดูแลอาคารควบคุมภาครัฐ” เพื่อให้สนับสนุนและช่วยเหลืออาคารควบคุมที่เป็นส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอิสระ รวมประมาณ 800 แห่ง ให้สามารถดำเนินการอนุรักษ์พลังงานได้ถูกต้องและครบถ้วนตามกฎหมาย โดยคาดว่า หลังจากเสร็จสิ้นโครงการดังกล่าวแล้ว ในปี 2554 จะสามารถประหยัดพลังงานได้เทียบเท่าน้ำมันดิบประมาณ 25,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 620 ล้านบาทต่อปี และลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 147,000 ตันต่อปี

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ