เรื่องย่อ ละคร คู่กรรม

ข่าวทั่วไป Friday January 16, 2004 14:37 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 ม.ค.--อาร์.เอส.โปรโมชั่น
คู่กรรม..............
แม้จะเป็นลูกสาวคนเดียว และขาดพ่อมาตั้งแต่เด็ก แต่ อัง ( อังศุมาลิน ชลาสินธุ์ ) ก็เติบโตมาท่ามกลางความรักและความอบอุ่นของ แม่อร เจ้าของสวนส้มริมน้ำเจ้าพระยา ฝั่งบางกอกน้อย กับ ยาย ( แม่ของอร ) พ่อของอังเป็นอดีตทหารเรือ ชื่อ หลวงชลาสินธุราช เขาพบรักกับอร เมื่อครั้งยังเป็นนักเรียนทหารเรือ จนได้เสียแต่งงานกัน แต่ญาติฝ่ายชายไม่ยอมรับอร เมื่ออรได้กำเนิดลูกสาวคนแรก ( อังศุมาลิน ) สามีก็จำต้องไปศึกษาวิชาการต่อเรือที่อิตาลี จากนั้นมาข่าวของชลาสินธุราชก็เงียบหายไป จนถึงกำหนดกลับ หลวงชลาสินธุราชก็ถูกคำสั่งจากญาติผู้ใหญ่ให้สั่งหย่าขาดกับอร อรจำยอมอย่างไม่มีสิทธิ์คัดค้าน แต่เพราะทิฐิ จึงมีข้อแม้ ห้ามไม่ให้เขามายุ่งกับอังศุมาลินอีกเป็นอันขาด
อังฯมีเพื่อนชายที่รู้ใจและสนิทสนมกันมาตั้งแต่เด็ก ชื่อ วนัส นิสิตหนุ่มคณะวิศวฯ มหาลัยเดียวกัน วนัสแก่กว่าอังฯเล็กน้อย จึงต้องทำหน้าที่ดูแลอังฯเหมือนเป็นพี่ชายไปด้วย โดยที่ในใจลึกๆของเขาแอบรักอังมากกว่าน้องสาว ซึ่งแม้อังฯจะรับรู้ แต่ก็ไม่เคยเปิดโอกาสหรือตอบรับความในใจของวนัสเลยสักครั้ง เธอไม่ปฎิเสธ แต่เธอคิดว่ายังไม่พร้อมที่จะมีความรัก
วนัสเป็นลูกชายคนเดียวของ กำนันนุ่ม กำนันนุ่มเองก็เอ็นดูอังฯเหมือนลูกสาว เช่นเดียวกับแม่อรกับยายก็รักและเอ็นดูวนัสเหมือนลูกเหมือนหลาน จนกำนันนุ่มถึงกับเคยออกปากกับแม่อรเรื่องการหมั้นหมายอังฯให้วนัสเมื่อทั้งคู่ถึงวัยอันควร ซึ่งแม่อรก็ไม่ได้ปฏิเสธ
วนัสได้ทุนไปเรียนต่ออังกฤษ เขากังวลที่จะต้องจากอังฯไปนานถึง 5 ปี กลัวความสัมพันธ์ระหว่างเขากับอังฯ จะเปลี่ยนไป ก่อนวันเดินทาง วนัสจึงถือโอกาสบอกรักอังฯใต้ต้นลำพู พร้อมกับขอให้อังสัญญาว่า จะรอเขาคนเดียว แม้จะเชื่อมั่นในตัววนัส แต่อังฯก็เลี่ยงตอบว่า เธอจะให้คำตอบวนัสทันทีที่เขากลับมา
วนัสเดินทางไปอังกฤษ จดหมายติดต่อกับอังฯเป็นระยะ บอกเล่าถึงสงครามที่เริ่มคุกรุ่นในยุโรป ทำให้อังฯเป็นห่วงวนัส และแทบทุกคืนเธอจะเล่นขิม เพื่อเป็นสื่อความคิดถึงและห่วงใยของเธอส่งไปยังวนัส
สงครามเริ่มแผ่ขยายเข้ามาถึงเมืองไทย ถึงกรุงเทพ ข่าวคราวจากทางยุโรปถูกตัดขาดอย่างสิ้นเชิง ทหารญี่ปุ่นเริ่มเข้ามาตั้งฐานทัพในจุดต่างๆของกรุงเทพ ไม่เว้นแม้แต่ใกล้ๆสวนของบ้านอังฯ แต่สถานการณ์ยังราบรื่น เป็นปกติดี
อังฯกับครอบครัวมีโอกาสได้รู้จักสนิทสนมกับ หมอโยชิ หมอชาวญี่ปุ่นผู้แสนใจดีและเป็นมิตร หมอโยชิเอ็นดูอังฯจนเสนอตัวสอนภาษาญี่ปุ่นให้เธอด้วยความเต็มใจ
หมอโยชิชวนอังเป็นล่ามสื่อสาร แต่อังปฏิเสธอย่างไม่ใยดี เพราะเธออคติกับคนญี่ปุ่น ด้วยมองว่าญี่ปุ่นนำสงครามมาสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน
แล้วอังฯก็ได้พบกับ โกโบริ ขณะที่เธอว่ายน้ำเล่นไปแอบดูอู่เรือของทหารญี่ปุ่นที่มาตั้งรกรากอยู่ใกล้ๆสวนบ้านเธอ โกโบริเป็นนายช่างใหญ่ประจำอู่ เขากล่าวทักทายอังฯอย่างเป็นมิตร แต่อังฯไม่พูดด้วย เพราะอคติกับคนญี่ปุ่น โดยเฉพาะทหาร
ทหารญี่ปุ่นที่อู่เรือ จ้างชาวบ้านคนไทยไปทำงานหลายต่อหลายคน รวมทั้ง ตาผล ซึ่งโกโบริจ้างไปสอนภาษาไทยให้ ไม่นานนักตาผลก็ร่วมกับ ตาบัว แอบขโมยของในโกดังทหาร จึงถูกทหารญี่ปุ่นทำโทษ
อังฯกับชาวบ้านตามไปดู โกโบริทำโทษตาผลอย่างทารุณ อังฯโกรธโกโบริ ด่าทอสารพัด โกโบริเองก็พยายามอธิบายว่าเป็นกฎของกองทัพญี่ปุ่น จนทั้งคู่เกิดปากเสียงกันจนได้ แม่อรซึ่งตามไปด้วย ต้องรีบดึงอังฯกลับบ้าน
แทบทุกคืนที่อู่ต่อเรือ โกโบริจะได้ยินเสียงขิมแว่วมาจากบ้านอังฯ เขารู้สึกไพเราะถูกใจ จนต้องแวะไปหาที่บ้านอังฯเพื่อขอชม การไปบ้านอังฯครั้งแรกของโกโบริ เขาได้พบกับแม่และยาย ( ทั้งคู่จะเรียกเขาว่า "พ่อดอกมะลิ" ) พอดีกับยายไม่สบาย โกโบริจึงไปตามหมอที่อู่ต่อเรือมาดูอาการ และคอยเป็นล่ามถ่ายทอดให้อังฯฟัง นอกจากนั้นยังมีโอกาสได้ใช้วิธีโบราณของชาวญี่ปุ่นช่วยรักษาอังฯที่เผลอโดนแมงป่องต่อยอีกด้วย
จากนั้นมา โกโบริก็เริ่มแสดงไมตรีกับครอบครัวอังฯ ใช้ให้ทหารลูกน้องส่งข้าวของผลไม้สำหรับคนป่วยมาให้ยายของอังฯ พาหมอมาดูอาการยาย จนทำให้ทั้งแม่กับยายเริ่มเอ็นดูและมองเห็นถึงน้ำใจไมตรีของโกโบริ ขณะที่อังฯก็ยังอคติกับเขาอย่างเดิม
ครั้งหนึ่ง โกโบริกับหมอรับเชิญของแม่อรให้ไปกินข้าวที่บ้าน และอังฯได้พบกับตาบัวกับตาผลมาแอบซุ่มดักรอทำร้ายโกโบริ ( เพราะแค้นที่ถูกลงโทษเมื่อครั้งก่อน ) แต่ด้วยทิฐิ อังฯจึงไม่บอกโกโบริ
จนโกโบริกับหมอกลับไป อังฯจึงกังวล จนตัดสินใจตามไปดู แต่ช้าเกินไป ทั้งโกโบริกับหมอโดนทำร้ายบาดเจ็บ อังฯตามไปช่วยไม่ทัน พาโกโบริกับหมอมารักษาตัวและนอนค้างที่บ้าน
โกโบริเจ็บหนักกว่าหมอ อังฯรู้สึกผิดจึงสารภาพกับโกโบริเรื่องที่เธอรู้มาก่อนแล้ว โกโบริเสียใจที่อังฯโกรธเกลียดเขามากเพียงนี้ โดยไม่รู้เลยว่าลึกๆแล้วอังฯก็เสียใจไม่แพ้เขา
แต่เมื่อพบกันอีกครั้ง โกโบริกลับปฏิบัติกับอังเหมือนปกติ เหมือนไม่เคยมีเรื่องใดๆเกิดขึ้น อังฯจึงยิ่งรู้สึกผิดและยอมอ่อนให้กับโกโบริมากขึ้น จนวันหนึ่ง ขณะที่โกโบริแวะมาที่บ้านอังฯตาบัวเกิดแวะมาหาอังฯเพื่อขอยาไปให้ตาผล ทั้งคู่พบกันอีกครั้ง แต่โกโบริกลับยังมีน้ำใจพอที่จะใช้ให้หมอตามไปช่วยรักษาตาผล…อังฯให้ตาบัวกับตาผลอาศัยรักษาตัวอยู่ในสวนฯ ขณะเดียวกันก็เริ่มเห็นน้ำใจของโกโบริ
โกโบริชวนหมดนำข้าวปลาอาหารมาบ้านอังฯ พร้อมกับเสนอตัวจะเข้าครัวทำอาหารญี่ปุ่นเลี้ยงตอบแทน อังฯคอยช่วยเป็นลูกมือ จู่ๆสัญญาณสงครามดังขึ้น โกโบริกับหมอรีบขอตัวกลับฐาน เสียงระเบิดลงตูม ๆ ทุกคนตื่นตระหนก ไม่มีใครรู้เลยว่าในใจลึกๆของอังฯตอนนี้นั้นแอบรู้สึกเป็นห่วงโกโบริ
สงครามเริ่มคุกรุ่นขึ้น ชาวบ้านต้องโกลาหลกับการหาที่หลบภัยทุกครั้ง ที่มีสัญญาณทิ้งระเบิด จนครั้งหนึ่ง หลังจากเสียงระเบิดเงียบลง อังฯ กับแม่และยายก็กลับขึ้นบ้านและอังฯ ได้พบกับ รท.ไมเคิล วอลเด็น ทหารเชลยศึกของญี่ปุ่นที่แอบหนีขึ้นมาหลบอยู่ในบ้าน ไมเคิลอ้อนวอนขอที่หลบภัย จนอังฯกับแม่เกิดสงสาร จึงตัดสินใจยอมให้ไมเคิลแอบรักษาตัวอยู่ในบ้านในห้องเก็บของ
ทหารญี่ปุ่นเริ่มออกมาหาตัวเชลยกันจ้าละหวั่น ไม่เว้นแม้แต่บ้านของอังฯ โกโบริกับลูกน้องมาขออนุญาตค้นบ้านตามหน้าที่ โชคดีที่อังฯรู้ตัวเสียก่อน จึงบอกให้ไมเคิลหลบในตู้เสื้อผ้าห้องนอนของเธอ โกโบริพบร่องรอยของไมเคิล แต่อังฯปฏิเสธ โกโบริเสียใจที่อังฯทำกับเขาเหมือนเขาเป็นคนโง่ จึงลากลับไปด้วยความน้อยใจ และไม่อยากให้อังฯต้องเดือดร้อน ในข้อหาช่วยเหลือเชลยสงคราม
กลางดึกคืนหนึ่ง อังบอกให้ไมเคิลเปลี่ยนที่หลบซ่อนตัว ให้ไปอยู่กับตาบัวที่ท้ายสวน แต่เมื่อเธอพาเขาไปถึงกระท่อม กลับเจอโกโบริอยู่กับตาบัว แต่โกโบริไม่เชื่อ อังฯเลยเดินหนี โกโบริตามไป โกโบริรู้ดีว่าอังฯพาไมเคิลมาอยู่กับตาบัว แต่เขาก็แสร้งเป็นไม่รู้ ไมเคิลจึงมีโอกาสหลบเข้าไปหาตาบัว ตามที่นัดแนะกับอังฯไว้เรียบร้อยแล้ว
โกโบริเดินตามอังฯ มีปากเสียงกันเรื่องความรับผิดชอบ จน น้าเมี้ยน บังเอิญเดินมาเจอทั้งคู่ เลยเข้าใจว่าทั้งคู่จีบกัน อังฯพาลโกรธใส่โกโบริที่ทำให้น้าเมี้ยนเข้าใจอย่างนั้น
สัญญาณระเบิดดังขึ้น ในคืนที่อังฯอยู่บ้านคนเดียว โกโบริซึ่งแวะมาหาพอดี เลยมีโอกาสได้ช่วยเหลือพาอังฯไปหลบภัยที่ท้ายสวน ทั้งคู่วิ่งฝ่ากระสุน โกโบริกอดอังฯวิ่งเอาตัวเป็นกำบังให้ และพาอังฯไปหลบในท้องร่องและกอดอังไว้แน่น ระเบิดก็ลงใกล้ๆจุดนั้น โกโบริยอมเสี่ยงชีวิตเจ็บตัวแทนอังฯ และก่อนที่เขาจะหมดสติไป โกโบริก็บอกรักอังฯ "ผมรักคุณ"
อังฯมารู้สึกตัวอีกทีบนบ้าน และถามถึงโกโบริทันที แม่บอกว่าโกโบริไม่เป็นไรมากแค่บาดเจ็บนิดหน่อย และก็ไม่รับไปรักษาตัวที่อู่เรือ โกโบริช่วยชีวิตอังฯไว้ และคำว่า "ผมรักคุณ" ของโกโบริ ก็ยังก้องอยู่ในใจอังฯ ทั้งที่เธอพยายามบอกตัวเองว่าเธอรักวนัส แต่ดูเหมือนส่วนหนึ่งของใจเธอ จะเริ่มอ่อนไหวไปซะแล้ว
น้าเมี้ยนเอาข่าวอังฯ กับโกโบริไปพูดจนเข้าถึงหูกำนันนุ่ม กำนันนุ่มไม่สบายใจเลยแวะมาซักถามกับอังฯ อังฯอธิบายความจริง แม้กำนันนุ่มจะเชื่อใจ แต่ก็ทำให้อังฯ กับแม่และยายไม่สบายใจกับข่าวนี้เท่าไรนัก
โกโบริได้รับฟังข่าวนี้จากหมอโยชิ ซึ่งคุ้นเคยกับชาวบ้าน เขาไม่สบายใจที่ทำให้อังฯเสียหาย จึงปรึกษากับหมอโยชิ และตัดสินใจไปหาอังฯและยอมรับผิด หาทางรักษาชื่อเสียงของอังฯด้วยการขอเธอแต่งงาน
แม้ลึกๆแล้วเธอจะรัก แต่เพราะโกโบริเป็นชาวญี่ปุ่น เป็นศัตรูที่เข้ามากร้ำกรายบ้านเกิดเมืองนอนของเธอ อังฯจึงปฏิเสธโกโบริอย่างไม่ใยดี
หมอโยชิเป็นตัวแทนโกโบริมาสู่ขออังฯในวันที่อังฯไม่อยู่ แม่ขอเวลาให้อังฯตัดสินใจ แม่หารือกับยาย ทั้งแม่กับยายต่างก็เอ็นดูโกโบริ แต่ในที่สุดแล้วก็ต้องอยู่ที่การตัดสินใจของอังฯคนเดียว
นสพ. ลงข่าวซุบซิบเรื่องอังฯกับโกโบริ หลวงชลาสินธุราชเดินทางมาพบอังฯถึงบ้านสวน เพื่อสอบถามเรื่องข่าวใน นสพ. เขาเล่าว่าทหารชั้นผู้ใหญ่ทั้งฝ่ายไทยกับญี่ปุ่น พากันยินดีกันยกใหญ่ ต่างฝ่ายต่างมองว่าเป็นการเชื่อมสัมพันธ์ เชื่อมวัฒนธรรมระหว่างไทยกับญี่ปุ่น หากอังฯไม่ยอมตกลง คงวุ่นวายกันน่าดู
โกโบริมาขอโทษอังฯ ที่เรื่องของเขากับเธอกลายเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต และมีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ทุกอย่างบีบคั้น เหมือนมัดมือชก จนในที่สุด อังฯก็จำต้องจำยอมแต่งงานกับโกโบริด้วยเหตุผลทางการเมือง
ข่าวการแต่งงานของอังฯกับโกโบริลง นสพ. ไมเคิลบังเอิญได้เห็นรูปพ่ออังฯใน นสพ. แล้วตกใจว่า เพราะพ่ออังฯคือพวกเสรีไทยที่เขากำลังตามหา และเป็นคนเดียวที่จะช่วยพาเขากลับประเทศได้ นั่นเอง ไมเคิลขอให้อังฯช่วยติดต่อพ่อเพื่อช่วยเหลือเขา อังฯรับปากจะช่วย แม่อรปรามอังฯกังวลว่า หากโกโบริรู้เข้าเรื่องจะไปกันใหญ่ แต่อังฯไม่สน
อังฯเข้าเมืองไปพบกับพ่อเรื่องไมเคิล พ่อรับปากจะช่วย โดยนัดแนะกันว่าจะให้ไมเคิลหลบในโรงศพแล้วให้คนช่วยกันแบกพาออกไปในวันแต่งงานของอังฯ
วันหมั้น แผนการร้ายไมเคิลสำเร็จลุล่วง โดยความร่วมมือของอังฯกับตาผล ตาบัว และลูกน้องของพ่อ โกโบริรู้เห็นทุกอย่าง แต่ไม่ต่อว่าใดๆกับอัง ได้แต่เก็บความรู้สึกและพาลเข้าใจไปว่าที่อังฯเกลียดเขา เพราะอังฯเป็นฝ่ายสัมพันธมิตร ซึ่งเท่ากับเป็นฝ่ายตรงข้ามกับเขา
การเตรียมงานแต่งเป็นไปอย่างเอิกเกริก แต่โกโบริกลับห่างหายจากอังฯ มุงานหนักเพราะคิดไม่ตกเรื่องที่อังฯกับเขาอยู่กันคนละฝ่าย ทั้งความรักและสงคราม จนหมอโยชิ ซึ่งก็พอจะรู้เรื่องราวทุกอย่างดี เกิดเห็นใจพยายามแวะมาให้กำลังใจ พร้อมทั้งบอกให้โกโบริรู้เหตุผล ที่ทางการตื่นเต้นกับการแต่งงานครั้งนี้ เพราะทางญี่ปุ่นรู้เรื่องที่พ่ออังฯเป็นเสรีไทย จึงหวังว่างานแต่งงานระหว่างลูกสาวเขากับทหารญี่ปุ่นอย่างโกโบริ จะทำให้พ่ออังฯเปลี่ยนใจตีจากฝ่ายเสรีไทย นั่นเอง
ความสุภาพแสนดีของโกโบริ เริ่มทำให้อังฯเริ่มมองเขาในแง่ดีมากขึ้นทีละนิด จนคืนหนึ่งขณะที่เธอมายืนนึกถึงสัญญาที่เคยให้ไว้กับวนัสที่ใต้ต้นลำพู โกโบริก็มาเจอ อังฯจึงสารภาพกับโกโบริว่าเธอมีคนที่เธอรออยู่แล้ว ( วนัส ) โกโบริเสียใจแต่ไม่แสดงออก แต่อังฯกลับเป็นฝ่ายรู้สึกว่าตัวเองได้ทำร้ายจิตใจของโกโบริ เธอเห็นใจและสงสารโกโบริจับใจ
โกโบริตัดสินใจไปหารือกับทหารชั้นผู้ใหญ่ เรื่องจะขอยกเลิกการแต่งงานแต่ไม่สำเร็จ
การแต่งงานของโกโบริกับอังศุมาลิน จึงเป็นไปตามกำหนดการ แขกเหรื่อมากมายมาร่วมแสดงความยินดี คืนส่งตัวโกโบริก็ปฏิบัติตัวเป็นสุภาพบุรุษ อ่อนโยน และไม่คิดที่จะล่วงเกินอังฯ แม้แต่น้อย
แต่ในวันที่ชาวบ้านจัดงานรำวงขึ้นโกโบริสนุกสนานมากเพราะชาวบ้านที่เริ่มเป็นมิตรกับเขาเลี้ยงเหล้าดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน และคืนนั้นเองโกโบริกับอังศุมาลินก็เป็นของกันและกัน โกโบริรู้สึกผิดมากที่ล่วงเกินอังศุมาลินไปด้านอังศุมาลินก็ได้แต่เก็บอารมณ์ของตัวเองเอาไว้
อังฯเริ่มแพ้ท้อง โกโบริดีใจ แต่ใจนึงก็กลัวว่าจะต้องเสียอังฯไป เพราะได้สัญญากับอังฯไว้แล้ว ตาบัวเอาข่าวดีมาบอกว่า วนัสกำลังจะกลับเมืองไทย อังฯยิ่งสับสนเพราะไม่รู้จะตอบคำถามวนัสอย่างไร โกโบริแอบอ่านจดหมายของวนัส อังฯรู้เข้าก็ไม่พอใจ ด่าทอโกโบริ และประชดด้วยการย้ำให้โกโบริอย่าลืมสัญญาที่จะให้อิสระกับเธอ
โกโบริมุงานหนัก นอนที่อู่เรือไม่ยอมกลับบ้าน พร้อมกับทำเรื่องขอย้ายไปประจำที่พม่า เพราะสถานการณ์ที่พม่ากำลังวุ่นวาย เขาไม่ต้องการได้ชื่อว่าเป็นทหารที่เลือกแต่งานสบาย แต่หมอโยชิรู้ดีว่าโกโบริมีเหตุผลมากกว่านั้น เพราะสังเกตเห็นว่าโกโบริกับอังฯมีปัญหาไม่เข้าใจกัน หมอโยชิจึงพยายามเข้ามาประสานความสัมพันธ์ของทั้งคู่ แต่ก็ไม่เป็นผล
ตาบัวและตาผลบอกข่าวเรื่องวนัสหายดีแล้ว แถมทางสันติบาล ตกลงจะร่วมมือกับเสรีไทยกำจัดญี่ปุ่น ยอมให้พวกเชลยออกไปปฏิบัติงานตอนกลางคืน ส่วนกลางวันก็ให้รีบกลับไปอยู่ในห้องขังตามเดิม แล้วคืนหนึ่ง วนัสก็แอบมาพบกับอังฯ วนัสรู้เรื่องอังฯดีทุกอย่าง เขารู้ดีว่าอังฯกำลังสับสนใจระหว่างโกโบริกับเขา จึงให้อิสระอังฯได้เลือกคนที่เธอรัก พร้อมกับฝากให้อังฯบอกโกโบริด้วยว่า อย่าไปบางกกอกน้อยตอนมีระเบิด อังฯซึ้งใจกับความเป็นสุภาพบุรุษของวนัส
ระเบิดลงชุดใหญ่ทำให้อังฯกลัวว่าโกโบริจะเป็นอันตราย จึงรีบตามไปบางกอกน้อยโดยไม่สนคำทัดทานของใคร
เมื่อไปถึงปรากฏว่าสถานีรถไฟบางกอกน้อยโดนถล่ม ทหารนอนตาย บาดเจ็บมากมาย อังเจอฯเจอหมอโยชิ ซึ่งก็กำลังตามหาโกโบริอยู่เหมือนกัน
อังฯขอพรลูกในท้องให้ช่วยคุ้มครองโกโบริ อังฯเดินตามหาโกโบริอย่างรุ่มร้อนใจ จนในที่สุดอังฯก็พบโกโบรินอนบาดเจ็บ อาการสาหัส อังฯไม่ยอมให้โกโบริจากเธอไป แต่โกโบริรู้ตัวดีว่าเขาคงไม่รอด จึงฝากให้อังฯช่วยดูแลลูกแทนเขาด้วย อังฯบอกรักโกโบริก่อนที่เขาจะสิ้นลมบนตักอังฯ นั่นเอง จบที่งานศพของโกโบริ ทุกคนร่ำไห้เสียใจ อังฯให้สัญญาต่อหน้าศพโกโบริว่า เธอจะมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อลูก และจะดูแลลูกให้ดีที่สุดเพื่อโกโบริ……ผู้ชายที่เธอรักสุดหัวใจ
---อวสาน---
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ บริษัท อาร์.เอส.โปรโมชั่น จำกัด (มหาชน)
โทร.02-511-0555 ต่อ 107 แฟ็กซ์ 02-938-5638
สุดารัตน์ จิตสมบูรณ์มิตร (เอ๋) 06-324-9933--จบ--
-นห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ