แพทย์เตือนสงกรานต์เล่นน้ำเปียก...เสี่ยงต่อโรค

ข่าวทั่วไป Tuesday April 1, 2014 16:33 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 เม.ย.--Mask Media เทศกาลแห่งความสุขที่ทุกคนรอคอยกำลังจะมาถึงในเร็วๆ นี้ นั่นก็คือเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นเทศกาลที่มีวันหยุดยาวอย่างต่อเนื่องกันหลายวัน คนส่วนใหญ่ก็จะกลับบ้านไปรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ และได้เล่นน้ำสงกรานต์คลายร้อนกันอย่างสนุกสนาน แต่หารู้ไม่ว่าโรคต่างๆ ที่จะตามมาหลังจากการเล่นน้ำสงกรานต์นั้นมีอะไรบ้าง แล้วยิ่งน้ำที่ไม่สะอาดด้วยแล้วนั้น อาจนำมาซึ่งเชื้อโรคต่างๆ มากมาย ที่สามารถเข้าสู่ร่างกายเราผ่านทาง ตา หู จมูก ปาก หรือแม้กระทั่งการสัมผัส ทั้งเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และไวรัสต่างๆ ยิ่งในช่วงอากาศร้อนอบอ้าวด้วยแล้ว ความเสี่ยงในการเกิดโรคก็ยิ่งมีโอกาสเพิ่มมากขึ้น เรามาดูกันดีกว่าว่าโรคอะไรบ้างที่มากับอากาศร้อนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อเตรียมตัวในการรับมือได้อย่างถูกวิธี แพทย์หญิงกรุณา อธิกิจ อายุรแพทย์ โรงพยาบาลปิยะเวท กล่าวว่า “เนื่องจากในช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงที่อากาศร้อนและแห้งเหมาะกับการเจริญเติบโตของเชื้อโรคโดยเฉพาะแบคทีเรียส่งผลให้อาหารที่ทำออกมารับประทานนั้นอาจบูดเสียได้ง่าย โดยเฉพาะพวกแกงที่มีส่วนผสมของกะทิหรือนมด้วยแล้ว รวมถึงการทานอาหารหรือน้ำที่ไม่สะอาดปนเปื้อนเชื้อโรค อาจทำให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษ โรคท้องร่วง โรคอหิวาตกโรค โรคไวรัสตับอักเสบเอ ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะมีอาการถ่ายเหลว ปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียน แต่หากมีภาวะขาดน้ำรุนแรงจะทำให้เกิดภาวะช็อค หมดสติ และเสียชีวิตได้ โรคต่อมาที่ควรระวังขณะเล่นน้ำเปียกนั้นคือ โรคไข้หวัดและปอดอักเสบ เนื่องจากการเล่นน้ำสงกรานต์ทำให้ร่างกายเปียกชื้นเป็นเวลานาน ยิ่งในต่างจังหวัดมีการเล่นติดต่อกันตั้งแต่เช้าถึงเย็นด้วยแล้ว ควรต้องระมัดระวังในผู้ป่วยที่มีภูมิต้านทานโรคต่ำและในกลุ่มเด็ก ไม่ควรสาดแรงจนเกินไปอาจทำให้สำลักน้ำ จนกลายเป็นที่มาของโรคปอดอักเสบได้ หากรู้สึกมีไข้หรือไม่สบายควรงดเล่นน้ำทันที เพราะจะทำให้อาการยิ่งรุนแรงมากขึ้น โรคต่อมาคือ โรคตาแดง เป็นอีกโรคที่พบบ่อย เมื่อเราเล่นน้ำแล้วน้ำที่ไม่สะอาดที่มีเชื้อโรคปะปน เช่น น้ำในคลอง น้ำบาดาล หากน้ำกระเด็นเข้าตาและมือเราที่ไม่สะอาดอาจไปขยี้ตาก็จะทำให้เกิดการติดเชื้อและอักเสบบวมแดงขึ้นมาได้ ถ้ามีอาการเคืองตา ตาแดง น้ำตาไหล ปวดตา เช่นเดียวกับโรคผิวหนัง ได้แก่ กลาก เกลื้อน ผดร้อน มักจะเกิดขึ้นได้ในหน้าร้อน จากการไม่รักษาความสะอาดของผิวหนัง และติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์ หากเล่นน้ำที่ไม่สะอาดก็จะเกิดโรคได้ง่ายมาก จึงควรรักษาความสะอาดร่างกาย ใส่เสื้อผ้าที่ไม่หนาหรือคับจนเกินไป จะมีได้ทั้ง ตุ่มใส ตุ่มแดง ตุ่มหนอง ผื่นวงแดง ผื่นจุดสีขาว คันตามจุดอับชื้น หากมีผื่นที่น่าสงสัยให้รีบปรึกษาแพทย์ทันที อีกโรคที่คนมักมองข้ามและคิดว่าอาจจะไม่ร้ายแรงมาก แต่แท้จริงแล้วอาจทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยทีเดียว โรคลมแดด หรือ โรคฮีทสโตรค (Heat Stroke) เป็นลมจากอากาศร้อน ทำให้ความร้อนในร่างกายสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส เกิดได้ในผู้ที่ร่างกายแข็งแรง ยิ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงที่อากาศค่อนข้างร้อนจัดทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากเป็นเวลานานๆ ร่างกายปรับตัวไม่ทัน สูญเสียเหงื่อมาก ระดับความเข้มข้นของเลือดและเกลือแร่ในร่างกายเข้มข้นเกินไป อาการเบื้องต้นได้แก่ รู้สึกกระหายน้ำมากๆ เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ หน้ามืด วิงเวียนศีรษะ ความดันโลหิตต่ำ ช็อก หมดสติได้ ผู้ป่วยจะมีอาการตัวร้อนจัดขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีเหงื่อออก ซึ่งต่างจากการเพลียจากแดดทั่วๆ ไป ที่จะพบว่าจะมีเหงื่อออกด้วย หากเกิดอาการดังกล่าวจะต้องหยุดพักทันที การป้องกันโรคลมแดด ควรหลีกเลี่ยงการยืนตากแดดเป็นเวลานานๆ หากจำเป็นควรสวมหมวกหรือกางร่ม ดื่มน้ำ 1-2 แก้ว ก่อนออกจากบ้านในวันที่มีอากาศร้อนจัด ยกเว้นในผู้ป่วยที่เป็นโรคประจำตัว ได้แก่ โรคหัวใจ โรคไต รวมถึงหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะอากาศร้อนทำให้การดูดซึมแอลกอฮอล์จะสูง ทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน เกิดอาการปวดศีรษะ ความดันโลหิตสูงขึ้น ปัสสาวะบ่อย ขาดน้ำ เป็นต้น” แพทย์หญิงกรุณา อธิกิจ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงที่ทุกคนสนุกสนานร่าเริง แต่ก็ไม่ควรละเลยการใส่ใจในการดูแลรักษาสุขภาพตนเอง ต้องระวังเรื่องความสะอาดของอาหารและน้ำดื่ม และยึดหลัก กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ด้วยการทานอาหารที่สุกใหม่สะอาด งดอาหารสุกๆ ดิบๆ หลีกเลี่ยงการทานอาหารค้างคืนหรืออาหารที่ปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน ดื่มน้ำที่สะอาดผ่านการกรองหรือต้มสุกมาแล้ว ล้างมือก่อนปรุงอาหาร และก่อนรับประทานอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ ใช้ช้อนกลางหากทานอาหารร่วมกัน หลีกเลี่ยงอาหารที่มีแมลงวันตอม และเวลาเล่นน้ำสงกรานต์ควรจะใช้น้ำสะอาดในการเล่น อย่าใช้มือในการสัมผัสกับดวงตา ไม่ควรแช่อยู่ในเสื้อผ้าเปียกเป็นเวลานานๆ ควรรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ที่แห้งทันทีหลังเล่นน้ำเสร็จ เพื่อป้องกันเชื้อโรคและปรสิตที่ปะปนมากับน้ำ เมื่อเราเล่นน้ำเสร็จแล้วก็ควรรีบล้างตัวให้สะอาดด้วยสบู่ และเช็ดตัวให้แห้ง และหลักสำคัญคือควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ ด้วยการออกกำลังกายอย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละอย่างน้อย 30 นาที พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำ 6-8 แก้วต่อวัน และหากพบความผิดปกติใดๆ ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ทันทีเพื่อรับการรักษาอย่างทันท่วงที” เทศกาลสงกรานต์ถือเป็นประเพณีที่ดีงาม เราจึงควรช่วยกันรักษาขนบธรรมเนียมนี้ไว้ ด้วยการนึกถึงความปลอดภัยของตัวเองและผู้อื่นเป็นหลัก ระวังอย่าสาดน้ำแรงจนทำให้ผู้อื่นสำลัก อย่าเล่นน้ำด้วยความคึกคะนองจนทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน เท่านี้คุณก็จะอยู่กับอากาศร้อนในช่วงสงกรานต์ได้อย่างมีความสุขและความสนุกสนานอย่างมีวัฒนธรรม อายุรแพทย์ โรงพยาบาลปิยะเวทกล่าวทิ้งท้าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ