นิเคอิ เอเชี่ยน รีวิว เผยไทยติด 1 ใน 10 ประเทศแถบเอเชีย ที่มีอำนาจทางเศรษฐกิจที่กำลังเติบโต

ข่าวทั่วไป Friday April 25, 2014 09:10 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 เม.ย.--โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์ เมื่อเร็วๆนี้ นิเคอิ เอเชี่ยน รีวิว รายงานแนวโน้มของผู้นำทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตกในตลาดเอเชีย ในปัจจุบัน โดยเอเชียเป็นอันดับต้นๆ ที่มีการคาดการณ์ของการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากผลการสำรวจเชิงปริมาณผ่านทางระบบออนไลน์โดยเอเดลแมน เบอร์แลนด์ บริษัทวิจัยการตลาดแบบครบวงจรระดับโลก ได้เข้าถึงแหล่งข้อมูลของกลุ่มตัวอย่างผู้นำทางธุรกิจในประเทศไทย อินเดีย อินโดนีเซีย จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น สิงคโปร์ อิตาลี สเปน สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และเยอรมนี เพื่อสอบถามความคิดเห็นจากผู้นำทางธุรกิจจากทั่วโลกเกี่ยวกับอำนาจทางเศรษฐกิจของเอเชียทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ภูมิภาคเอเชีย คือหนึ่งในภูมิภาคอันดับต้นๆ ที่คาดการณ์ว่ามีการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีประเทศในตลาดเอเชียเกินกว่าครึ่งจาก 10 ประเทศชั้นนำที่จะขยายอิทธิพลทางเศรษฐกิจโลก ซึ่งประกอบด้วย ไทย จีน อินเดีย ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ตลาดเหล่านี้ล้วนอยู่ในภูมิภาคเดียวกันและมีอิทธิพลอำนาจในการเติบโตสูงที่สุด ซึ่งไล่แซงหน้ากลุ่มอดีตผู้นำตลาด ซึ่งได้แก่ สหรัฐอเมริกา บราซิล และเยอรมนี จากผลการสำรวจพบว่า ชาติตะวันตกกำลังมองหากลุ่มตลาดที่กำลังพัฒนา อาทิ อินเดียและบราซิล ในขณะที่ชาติตะวันออกกำลังมองไปที่ญี่ปุ่นและจีนเพื่อต่อยอดและขยายอิทธิพลทางเศรษฐกิจระดับโลกในอนาคต นอกจากนี้แล้ว ผู้นำไม่ว่าจากตลาดใดก็ตาม ต่างกระตือรือร้นในการรับข้อมูลเกี่ยวกับภูมิภาคเอเชียมากขึ้น รวมไปถึงโอกาสต่างๆ ที่จะปรากฎขึ้น โดยพวกเขารู้สึกตื่นเต้นกับโอกาสทางเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้ และต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม ขณะนี้พวกเขากำลังมองหาความชัดเจนมากขึ้นในรายละเอียด และผู้นำทุกคนล้วนมีความสนใจเกี่ยวกับภูมิภาคเอเชีย สื่อมวลชนชาติตะวันตกได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มผู้นำในแถบเดียวกันถึงร้อยละ 79 ขณะที่ผู้นำชาติตะวันออกให้ความไว้วางใจสื่อมวลชนตะวันตกเพียงร้อยละ 44 ซึ่งเป็นจำนวนเกือบครึ่งที่ยังคงเชื่อถือในข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับภูมิภาคเอเชียที่นำเสนอโดยสื่อมวลชนตะวันตก แต่จากการสำรวจผู้นำทั้งหมด กลับพบว่าพวกเขาต่างมีความวิตกกังวลและปัญหาต่างๆ กับสื่อตะวันตก ตัวอย่างเช่น ผู้นำจากฝั่งตะวันตกโดยเฉพาะกลุ่มที่มีอายุระหว่าง 45-64 ปี เชื่อว่าพวกเขาไม่ได้รับข้อมูลทั้งหมดที่จำเป็นในการแสวงหาโอกาสทางผลประโยชน์ในทวีปเอเชีย เมื่อมองไปที่ภาพรวมของธุรกิจสื่อสารมวลชน ดูเหมือนว่าจะมีบทความที่แสดงความคิดเห็นหรือคอลัมน์ซึ่งอยู่ในระดับที่เชื่อถือได้ ปรากฎในสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ แต่ผู้นำทางธุรกิจโดยเฉพาะชาวตะวันตกกลับรู้สึกว่าพวกเขาต้องการข้อมูลเชิงลึกที่เฉพาะเจาะจงในแต่ละประเทศมากขึ้น ทั้งนี้ ผู้นำจากทั้งสองฝั่งไม่ได้มอบความเชื่อถือและไว้วางใจในสื่อมวลชนนานาชาติ หรือจากฝั่งตะวันตกเสียทั้งหมด อย่างไรก็ตาม หากไม่คำนึงถึงแหล่งที่มาของสื่อ ผู้นำทุกคนต่างเชื่อว่าการได้รับข้อมูลเกี่ยวกับโอกาสและตลาดในเอเชียนั้นมีความสำคัญมาก จากการสำรวจยังพบว่าผู้นำท้องถิ่นยังคงได้เปรียบในการทำธุรกิจภายในประเทศตัวเอง มีร้อยละ 65 ของชาวตะวันออกเชื่อว่าผู้นำทางธุรกิจในท้องถิ่นนั้นมีความแข็งแกร่งกว่า ถึงแม้ว่าชาวตะวันตกจะเปิดกว้างรับทางเลือกมากกว่าก็ตาม ผู้นำต่างๆ ในเอเชียมีแนวโน้มที่จะเชื่อว่าพันธมิตรและลูกค้าในอนาคตของพวกเขาจะมาจากในเอเชียเช่นกัน และพวกเขายังเล็งเห็นถึงศักยภาพในการเติบโตเป็นอย่างมากในภูมิภาคของตน แม้ว่าจะมีการเปิดกว้างในเรื่องของผู้นำที่มาจากนานาประเทศ แต่มีร้อยละ 50 ของผู้นำทางธุรกิจชาติตะวันตกเชื่อว่าการจัดหาผู้ร่วมงานในตำแหน่งผู้จัดการที่เป็นชาวเอเชียในตลาดท้องถิ่นนั้นเป็นเรื่องยาก ผู้นำชาติตะวันตกมีความกังวลในการว่าจ้างพนักงานท้องถิ่น แม้กระทั่งผู้นำชาวตะวันออกเองยังมีความไม่แน่ใจเกี่ยวกับคุณภาพของมหาวิทยาลัยต่างๆ ในเอเชีย ในแง่ของการศึกษา พบว่ามีร้อยละ 62 ของชาวตะวันออกเชื่อว่าสถาบันการศึกษาด้านธุรกิจจากประเทศฝั่งตะวันตก (ยุโรปและอเมริกาเหนือ) ให้การศึกษาแก่นักเรียนในระดับที่ดีกว่าสถาบันการศึกษาต่างๆ ในภูมิภาคตะวันออก และความเชื่อที่ว่านี้ยิ่งมีมากขึ้นในรุ่นกลุ่มคนที่มีอายุน้อยกว่า เนื่องจากพวกเขากำลังเริ่มเปลี่ยนมุมมองและแนวคิดต่างๆ ในทางตรงกันข้าม มีชาวตะวันออกเพียงร้อยละ 24 ที่มีความเชื่อมั่นในสถาบันการศึกษาทางธุรกิจในภูมิภาคของตัวเองว่าสามารถพัฒนาว่าที่ผู้นำแห่งอนาคตของธุรกิจในเอเชียได้ สิ่งนี้มีความสำคัญยิ่งสำหรับทั่วทั้งภูมิภาคในการพัฒนาเพื่อความสำเร็จทางธุรกิจต่างๆ ของพวกเขา ถึงแม้ว่าแนวโน้มทางการศึกษาทางธุรกิจยังคงเป็นสถาบันจากทางฝั่งตะวันตก เพราะเชื่อว่าสถาบันเหล่านี้มอบการศึกษาที่ดีกว่าและสามารถผลิตว่าที่ผู้นำเอเชียแห่งอนาคตได้ หากไม่คำนึงถึงเมืองชั้นนำต่างๆ แล้ว ผู้นำเหล่านี้เชื่อว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจนั้นต้องพึ่งพาแต่ละประเทศและภูมิภาค โดยมี 2 ใน 3 ของกลุ่มตัวอย่างเล็งเห็นถึงความจำเป็นสำหรับในการขับเคลื่อนระดับภูมิภาค ขณะที่ตลาดทางฝั่งตะวันตกนั้นมีแนวโน้มในลักษณะเดียวกัน คือเน้นไปทั้งระดับประเทศและภูมิภาค เป็นที่แน่ชัดว่าผู้นำชาติตะวันออกส่วนใหญ่เชื่อว่าภูมิภาคเอเชียมีความต้องการที่แตกต่างจากฝั่งตะวันตก พวกเขาเชื่ออีกว่าการพัฒนาเศรษฐกิจจำเป็นต้องได้รับการประยุกต์ให้เข้ากับความต้องการในแบบฉบับของแต่ละพื้นที่ในภูมิภาคนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ