จังหวัดสกลนครขับเคลื่อนองค์ความรู้ ตามแนวพระราชดำริสู่สถาบันการศึกษา

ข่าวทั่วไป Monday May 26, 2014 10:15 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 พ.ค.--สำนักงาน กปร. สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) ร่วมกับศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดสกลนคร จัดประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการใน “โครงการอบรม-สัมมนาเชิงปฏิบัติการคณะผู้บริหารสถานศึกษาเผยแพร่องค์ความรู้ สำหรับพัฒนาการประกอบอาชีพทางการเกษตรและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ” สำหรับผู้บริหารสถานศึกษาในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาในเขตจังหวัดสกลนครขึ้น ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.สกลนคร เมื่อวันก่อน โดยมีนายบุญส่ง เตชะมณีสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เป็นประธานเปิดงาน และนายประสาท พาศิริ ผู้อำนวยการสำนักประสานงานโครงการพื้นที่ 2 สำนักงาน กปร. พร้อมด้วยนายสุรชาติ มาลาศรี ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ร่วมกันบรรยาย ถึงการดำเนินงานของศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตลอดถึงการนำผลสำเร็จจากการศึกษาทดลองที่ประสบผลสำเร็จแล้วขยายผลสู่การปฏิบัติใช้ของราษฎร และการขับเคลื่อนองค์ความรู้ตามแนวพระราชดำริสู่สถานศึกษา การอบรมสัมมนาในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเชื่อมโยงองค์ความรู้ในศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ ออกสู่สถานศึกษาในลักษณะพื้นที่เรียนรู้ที่มีชีวิต โดยมีผู้เข้าร่วมอบรมเป็นผู้บริหารจากสถานศึกษาในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาในเขตจังหวัดสกลนคร ประกอบด้วยคณะผู้บริหาร ครู อาจารย์ จากสถาบันการศึกษาในพื้นที่จังหวัดสกลนครกว่า 150 คนเข้ารับการอบรม จากนั้นผู้เข้าร่วมอบรมได้เยี่ยมชมการดำเนินงานภายในศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ อาทิ กลุ่มงานศึกษาพัฒนาประมง ประกอบด้วยการเลี้ยงปลานิลแดงร่วมกับเป็ดบาบาลีในบ่อแบบครัวเรือน ซึ่งเป็นรูปแบบการเลี้ยงสัตว์แบบผสมผสาน เพื่อลดอัตราเสี่ยงการขาดทุนจากการเลี้ยงสัตว์เพียงอย่างเดียว ส่วนปลานิลแดงนั้นเป็นปลาที่มีการเจริญเติบโตได้ดี ทนต่อโรคและให้ผลผลิตสูงทั้งในการเลี้ยงแบบผสมผสาน และการเลี้ยงแบบอื่นๆ และการเลี้ยงปลาดุกในบ่อซีเมนต์ ซึ่งเป็นการเลี้ยงที่มีความสะดวกในการจัดการเหมาะสำหรับราษฎร และโรงเรียน ที่มีน้ำใช้อย่างจำกัด ซึ่งมีทั้งบ่อซีเมนต์แบบเหลี่ยมและแบบกลม ส่วนปลาที่เหมาะสมต่อการเลี้ยงคือปลาดุกเทศ หรือปลาดุกยักษ์ เนื่องจากโตเร็วกินอาหารได้แทบทุกชนิด ระยะเลี้ยงสั้นเพียง 2-3 เดือน ก็สามารถนำมาบริโภคได้แล้ว และกลุ่มงานศึกษาพัฒนาปศุสัตว์ ประกอบด้วยการเลี้ยงโคเนื้อทาจิมะภูพาน ซึ่งเป็นโคสายพันธุ์ที่ให้เนื้อคุณภาพดีที่สุดในโลก เนื้อมีความนุ่ม ไขมันแทรก มีเกรดสูง ที่สำคัญคือ มีสัดส่วนของกรดไขมันไม่อิ่มตัว กรดไขมันอิ่มตัวสูงกว่าโคทั่วไป จึงมีผลทำให้เนื้อโคทาจิมะปลอดภัยต่อการบริโภค การพัฒนาโคเนื้อทาจิมะภูพานนี้ ทางศูนย์ฯ ได้มุ่งเน้นการใช้โคแม่พันธุ์ พันธุ์พื้นเมืองที่ราษฎรมีอยู่แล้วมาผสมกับน้ำเชื้อโคเนื้อทาจิมะภูพานแล้วทำการขุนลูกโคเนื้อ ซึ่งที่ผ่านมามีราษฎรในพื้นที่ภาคอีสานนำไปเลี้ยงและประสบผลสำเร็จสร้างรายได้แก่ราษฎรเป็นอย่างมาก นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของราษฎรในพื้นที่ จากนั้นเยี่ยมชมการเลี้ยงไก่ดำภูพาน ไก่ดำสายพันธุ์ใหม่ที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ ได้พัฒนาปรับปรุงให้ได้ไก่พันธุ์ดี ทนโรค เลี้ยงง่าย โตเร็ว สามารถสร้างรายได้ให้แก่ราษฎรมากกว่าไก่เนื้อทั่วไป เนื่องจากไก่ดำที่น้ำหนัก 1 กิโลกรัม ราคาตัวละ 250 บาท ในขณะที่ไก่เนื้อทั่วไป ราคาตัวละ 70-80 บาท เท่านั้น จึงได้รับความนิยมจากราษฎรเป็นจำนวนมากในการนำไปเลี้ยงสร้างรายได้ให้กับครอบครัว และการเลี้ยงสุกรภูพาน ซึ่งเป็นสุกรที่เกิดจากการพัฒนาสายพันธุ์จากสุกร 4 สายพันธุ์ ได้แก่ สุกรพันธุ์เหมยซาน พันธุ์พื้นเมืองสกลนคร พันธุ์ดูร๊อกเจอร์ซี่ และพันธุ์แลนด์เรซ ได้สายพันธุ์สุกรภูพาน1 และ 2 ที่มีจุดเด่นคือเลี้ยงง่าย โตเร็ว ให้ลูกดก สามารถปรับตัวเข้ากับการเลี้ยงของราษฎรในสภาพภูมิประเทศแถบอีสานได้เป็นอย่างดี ซี่งผลการดำเนินงานเหล่านี้ของศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สามารถนำไปขยายผลเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับเด็กนักเรียนตลอดถึงผู้ปกครองในสถาบันการศึกษาของจังหวัดสกลนครได้เป็นอย่างดี.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ