กรุงศรีรายงานผลกำไรสุทธิไตรมาส 2/2557 ที่ 3.5 พันล้านบาท พร้อมคงเป้าการเติบโตของสินเชื่อทั้งปีอยู่ที่ 7-9%

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 21, 2014 13:01 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 ก.ค.--ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) วันนี้ได้รายงานผลกำไรสุทธิไตรมาส 2/2557 จำนวน 3.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.0% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2557 และเพิ่มขึ้น 13.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2556 โดยครึ่งปีแรกของปี 2557 กรุงศรีกรุ๊ปมี กำไรสุทธิ 6.8 พันล้านบาท ลดลง 4.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2556 สรุปผลประกอบการ (ตามงบการเงินรวม) และฐานะการเงินที่สำคัญสำหรับไตรมาส 2/2557 - เงินให้สินเชื่อ: เพิ่มขึ้น 0.3% คิดเป็นสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นจำนวน 2.5 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2556 และเพิ่มขึ้น 0.7% หรือคิดเป็นจำนวน 6.2 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2557 - การเติบโตของเงินรับฝาก: เพิ่มขึ้น 2.6% คิดเป็นจำนวน 19.7 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2556 - กำไรสุทธิ: 3.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.0% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2557 และเพิ่มขึ้น 13.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2556 - ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM): ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 1/2557 มาอยู่ที่ 4.31% ซึ่งเป็นผลจากการลดต้นทุนทางการเงินของธนาคาร - รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ: เพิ่มขึ้น 4.1% จากไตรมาส 1/2557 โดยได้รับการสนับสนุนจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการบริหารความมั่งคั่ง การบริหารกองทุนและธุรกิจหลักทรัพย์ - อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้: ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 49.2% เมื่อเทียบกับ 50.1% ในไตรมาส 1/2557 - อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPLs): ลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 2.92% เมื่อเทียบกับ 2.97% ในไตรมาส 1/2557 - อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้: แข็งแกร่งอยู่ที่ระดับ 134.3% - อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง: อยู่ที่ 14.2% เมื่อเทียบกับ 14.7% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2556 เงินรับฝากเพิ่มขึ้น 2.6% จากการระดมเงินผ่าน “เงินฝากประจำ Step up 8 เดือน” ที่เปิดตัวเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องในผลิตภัณฑ์เงินฝากออมทรัพย์ “กรุงศรีมีแต่ได้” เงินฝากดอกเบี้ยสูง และ “ออมทรัพย์จัดให้” ผลิตภัณฑ์เงินฝากที่มาพร้อมสิทธิพิเศษต่างๆ ขณะที่สัดส่วนของเงินรับฝากประเภทออมทรัพย์และจ่ายคืนเมื่อทวงถาม (CASA) ต่อสัดส่วนเงินรับฝากทั้งหมดอยู่ที่ระดับ 52.6% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2557 ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 4.31% เมื่อเทียบกับ 4.22% ในไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากการลดต้นทุนทางการเงินของธนาคาร มร. โนริอากิ โกโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า“การเติบโตในระดับปานกลางในช่วงครึ่งแรกของปีนี้เป็นผลมาจากปัจจัยทางการเมืองที่ยืดเยื้อ ภาวะการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงขณะที่ธนาคารเองก็ให้ความสำคัญกับคุณภาพของสินเชื่อเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามการเติบโตของสินเชื่อได้เริ่มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในไตรมาสที่สอง แม้ว่าการบริโภคภายในประเทศ และการลงทุนจากภาคธุรกิจยังคงได้รับแรงกดดันจากปัจจัยภายในประเทศ” มร. โกโตะ ให้ความเห็นเกี่ยวกับภาพรวมแนวโน้มธุรกิจของธนาคารว่า “สำหรับในช่วงครึ่งหลังของปี 2557 เราคาดว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอันเป็นผลจากการเมืองที่มีเสถียรภาพมากขึ้น และความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลต่อการเติบโตต่อเนื่องของธนาคารและบริษัทในเครือทั้งในด้านสินเชื่อและรายได้จากค่าธรรมเนียม ทั้งนี้ ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น กอปรกับปัจจัยด้านฤดูกาลที่สนับสนุนให้มีความต้องการสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนของสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคและสินเชื่อภาคธุรกิจ กรุงศรีจึงคงเป้าการเติบโตของสินเชื่อของทั้งปีอยู่ที่ 7-9%” ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2557 ธนาคารกรุงศรีอยุธยาซึ่งเป็นธนาคารที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับห้าของประเทศไทยมีสินเชื่อรวม 946 พันล้านบาท เงินรับฝาก 783.8 พันล้านบาท และสินทรัพย์รวม 1.2 ล้านล้านบาท ขณะที่เงินกองทุนของธนาคารยังคงแข็งแกร่งอยู่ที่ 122.9 พันล้านบาท หรือเทียบเท่า 14.2% ของสินทรัพย์เสี่ยง โดยเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 คิดเป็น 10.3%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ