บลจ.กสิกรไทย มั่นใจหุ้นยุโรปยังโตแกร่ง ชิงจังหวะช่วงหุ้นปรับฐาน ส่งกองทุนเปิดเค ยูโรเปียน อิควิตี้ ทริกเกอร์ 1 ลงตลาด ตั้งเป้าทริกเกอร์ 8% ใน 1 ปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 24, 2014 10:35 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 ก.ค.--บลจ.กสิกรไทย บลจ. กสิกรไทย มองเศรษฐกิจยุโรปฟื้นตัวต่อเนื่อง ขานรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ หนุนหุ้น STOXX EUROPE 600 ทะยานต่อ พร้อมส่งกองทุนเปิดเค ยูโรเปียน อิควิตี้ ทริกเกอร์ 1 (KEET1) ตั้งเป้าโอกาสรับผลตอบแทน 8% ภายใน 1 ปี เปิดขายครั้งเดียว 28-30 ก.ค. นี้ ลงทุนขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท นายพงศ์พิเชษฐ์ นานานุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ. กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทย ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรป ซึ่งได้รับผลดีจากการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยังคงดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินอย่างต่อเนื่อง อาทิ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมาอยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.15% การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสถาบันการเงินลงมาติดลบที่ระดับ -0.10% การกำหนดนโยบายเพื่อเสริมสภาพคล่องให้ธนาคารพาณิชย์ยุโรปปล่อยกู้กับภาคธุรกิจที่แท้จริงมากขึ้น รวมถึงการเปิดโอกาสที่จะมีการทำมาตรการ QE เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลบวกต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจยุโรป ซึ่งจะทำให้ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลง และจะส่งผลดีต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในยุโรป โดยจะได้รับอานิสงค์จากการส่งออกได้เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ตั้งแต่ต้นปี ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นมาแล้วประมาณ 4% โดยมีช่วงปรับฐานลงเล็กน้อยในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมจากความกังวลในสถานการณ์ยูเครนและรัสเซีย รวมถึงกรณีเครื่องบินของสายการบินมาเลเซียตก ซึ่งสร้างความตึงเครียดในระยะสั้น อย่างไรก็ดี จากมุมมองเชิงบวกต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางยุโรป รวมถึงปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจยุโรปในระยะยาว จะส่งผลบวกต่อผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนในยุโรปให้สามารถขยายตัวและเติบโตต่อไปได้ บลจ.กสิกรไทยจึงแนะนำให้อาศัยจังหวะตลาดปรับฐานในช่วงนี้ เข้าทยอยสะสมการลงทุนในหุ้นยุโรปเพิ่มเติม นายพงศ์พิเชษฐ์กล่าวต่อว่า “ในโอกาสนี้ บลจ.กสิกรไทย จะเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค ยูโรเปียน อิควิตี้ ทริกเกอร์ 1 (KEET1) ซึ่งมุ่งหวังโอกาสรับผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ประมาณ 8% ภายใน 1 ปี โดยจะเปิดขายครั้งเดียวในวันที่ 28-30 กรกฎาคมนี้ เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนสูงจากการเติบโตของตลาดหุ้นยุโรป มีเป้าหมายในการลงทุนประมาณ 1 ปี – 2 ปี และสามารถรับความผันผวนของตลาดหุ้นยุโรปได้ ทั้งนี้ กองทุน KEET1 จะลงทุนในกองทุนหลักในต่างประเทศพร้อมนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 75% ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ โดยเน้นลงทุนในกองทุนหลัก คือ กองทุน iShares STOXX Europe 600 (DE) บริหารจัดการโดย iShares ซึ่งเป็นบริษัทผู้นำในกลุ่มกองทุน ETF (Exchange Traded Fund) รายใหญ่ที่สุดในโลก โดยกองทุนหลักดังกล่าวจะมุ่งสร้างผลตอบแทนอ้างอิงกับดัชนี The STOXX Europe 600 (EUR) ที่ประกอบไปด้วยหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นยุโรปทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลางและขนาดเล็กจำนวน 600 หุ้น จาก 18 ประเทศทั่วทวีปยุโรป ซึ่ง Bloomberg คาดการณ์ว่าผลกำไรในอีก 1 ปีข้างหน้าของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นยุโรป (ดัชนี STOXX EUROPE 600) จะสามารถเติบโตได้ถึง 12% นอกจากนี้ระดับราคาหุ้นยุโรปปัจจุบันค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต โดยมีค่า Forward P/E อยู่ที่ 15.5 เท่า เปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ 18.1 เท่า” กองทุนเปิดเค ยูโรเปียน อิควิตี้ ทริกเกอร์ 1 (KEET1) ตั้งเป้าหมายที่จะให้ผู้ลงทุนได้โอกาสรับผลตอบแทนที่ 8% ใน 1ปี โดยบลจ.กสิกรไทยจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติรอบแรกเมื่อหน่วยลงทุนมีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 10.40 บาทในวันทำการใดวันทำการหนึ่ง และจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทั้งหมดและเลิกกองทุนเมื่อหน่วยลงทุนมีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 10.95 บาทในวันทำการใดวันทำการหนึ่ง แต่ถ้าหากภายในปีแรกมูลค่าหน่วยลงทุนไม่สามารถปรับขึ้นไปที่ระดับดังกล่าวได้ ในปีถัดไปนักลงทุนสามารถขายหน่วยลงทุนออกมาได้ ทั้งนี้กองทุนจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและเลิกกองทุนหากหน่วยลงทุนมีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 10.40 บาท อย่างไรก็ตาม หากกองทุนครบอายุ 1 ปี 6 เดือนและยังไม่ได้มีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติตามเป้าหมายข้างต้น บลจ.กสิกรไทย จะเลิกกองทุนและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนเท่ากับมูลค่าหน่วยลงทุน ณ วันสิ้นอายุกองทุน ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถลงทุนกับกองทุนเปิดเค ยูโรเปียน อิควิตี้ ทริกเกอร์ 1 (KEET1) ได้ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับหนังสือชี้ชวนเสนอขายได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือสอบถาม KAsset Contact Center 0 2673 3888

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ